ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 2.24 จุด ขณะนักลงทุนยังกังวลผลกระทบสงครามการค้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 9, 2019 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้า โดยรายงานล่าสุดระบุว่า จีนยืนยันว่าจะใช้มาตรการตอบโต้หากสหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนในวันศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,967.33 จุด เพิ่มขึ้น 2.24 จุด หรือ +0.01% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,879.42 จุด ลดลง 4.63 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,943.32 จุด ลดลง 20.44 จุด หรือ -0.26%

กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะตอบโต้สหรัฐ หากมีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% ในวันศุกร์นี้ จากเดิมที่ระดับ 10%

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า เจ้าหน้าที่จีนได้แจ้งต่อทำเนียบขาวว่า พวกเขาจะเดินทางมายังสหรัฐเพื่อทำข้อตกลงทางการค้า นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังเชื่อว่าการที่จีนชะลอการเจรจาการค้าก่อนหน้านี้ เนื่องจากเชื่อว่า หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในปีหน้า จีนจะสามารถเอาเปรียบสหรัฐต่อไปอีกหลายปี

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เบสโปค อินเวนต์เมนต์ กล่าวว่า แม้นักลงทุนส่วนหนึ่งมีความหวังว่าสหรัฐและจีนอาจบรรลุข้อตกลงทางการค้าในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญในการเจรจาการค้ากับสหรัฐ จะเข้าร่วมการเจรจาการค้าในครั้งนี้ด้วย แต่บรรยากาศการซื้อขายยังคงซบเซา เนื่องจากผลการเจรจาครั้งนี้ยังคงไม่แน่นอน

หุ้นบริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ เป็นตัวชี้วัดสภาวะการค้าของสหรัฐ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศนั้น ปิดตลาดร่วงลง 1.3% ขณะที่หุ้นบางตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลง โดยหุ้น 3M ลดลง 0.3% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ดิ่งลง 1.8%

หุ้นโคตี้ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางรายใหญ่ ร่วงลง 5.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ลดลง 10.4% ในไตรมาสแรก

หุ้นทริปแอดไวเซอร์ ดิ่งลง 11% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ในไตรมาสแรก

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยขณะนี้ บริษัทจำนวน 88% ในดัชนี S&P 500 ได้เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาสแรกแล้ว โดย 73% สามารถรายงานตัวเลขกำไรสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และดีกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าบริษัทจดทะเบียนจะรายงานผลประกอบการลดลง 4.2% ในไตรมาสแรก

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย., ดุลการค้าเดือนมี.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ