ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 300 จุดในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในวันพรุ่งนี้ หากทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาการค้า
ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด พุ่งขึ้นสู่ระดับ 22.63 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.
ณ เวลา 20.52 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 25,661.94 จุด ลบ 305.39 จุด หรือ 1.18%
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 700 จุดนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ร่วงลงมากกว่า 3%
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% ในวันพรุ่งนี้ โดยจะมีผลตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืน จากเดิมที่ระดับ 10% รวมทั้งจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% ในไม่ช้า
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า จีนไม่ยอมทำตามข้อตกลงที่เคยให้ไว้ในระหว่างการเจรจาการค้าร่วมกับสหรัฐ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่สหรัฐและจีนมีกำหนดกลับมาเจรจาการค้าอีกครั้งในวันนี้ และวันพรุ่งนี้ที่กรุงวอชิงตัน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ทำการเจรจาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่กรุงปักกิ่งของจีน
นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวว่า จีนพร้อมรับมือความเป็นไปได้ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และจีนพร้อมตอบโต้สหรัฐ หากมีการขึ้นภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีน
นายเกากล่าวเสริมว่า "เราหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะพบกันครึ่งทาง และแก้ไขปัญหาผ่านทางการเจรจา"
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% สู่ระดับ 5.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. หลังจากที่ขาดดุลการค้า 4.93 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.
หากปรับค่าตามเงินเฟ้อ สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 0.5 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 8.21 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.
กระทรวงพาณิชย์ยังเปิดเผยว่า การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.4% สู่ระดับ 1.417 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.2% สู่ระดับ 2.141 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนลดลง 16.2% ในเดือนมี.ค. สู่ระดับ 2.07 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2557 ขณะที่การส่งออกไปยังจีนพุ่งขึ้น 23.6% และการนำเข้าจากจีนลดลง 6.1%
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลงสู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 0.6% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนเม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% เช่นกันในเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และดีดตัวขึ้น 2.3% เมื่อเทียบรายปี
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว หลังจากทรงตัวในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนมี.ค.