ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 617.38 จุด หลังจีนเปิดศึกการค้าตอบโต้สหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 14, 2019 06:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) หลังจากจีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้ดำเนินการด้านภาษีต่อจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกในตลาด และทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,324.99 จุด ลดลง 617.38 จุด หรือ -2.38% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,811.87 จุด ลดลง 69.53 จุด หรือ -2.41% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,647.02 จุด ลดลง 269.92 จุด หรือ -3.41%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากกระทรวงการคลังของจีนแถลงเมื่อวานนี้ว่า จีนจะเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย.

ทั้งนี้ สินค้าในภาคเกษตรของสหรัฐจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการขึ้นภาษีในครั้งนี้ หลังจากที่ถูกกระทบก่อนหน้านี้จากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยรายการสินค้าที่จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น รวมถึง ถั่ว น้ำตาล ข้าวสาลี ไก่ และไก่งวง

การที่จีนประกาศเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเมื่อวานนี้ ถือเป็นการตอบโต้สหรัฐ ซึ่งได้เพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 25% จากเดิมที่ระดับ 10% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งรวมถึงหุ้นบริษัทโบอิ้งและแคทเธอร์พิลลาร์ที่มีการลงทุนจำนวนมากในต่างประเทศ โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 4.9% หุ้น 3M ลดลง 1.02% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 4.6% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ร่วงลง 3.8% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (GE) ร่วงลง 2.6% หุ้นยูเอส สตีล ดิ่งลง 6% และหุ้นเอเค สตีล โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 7%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ผลิตชิพร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าเช่นกัน โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 5.8% หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 3.6% หุ้นอเมซอนดอทคอม ดิ่งลง 3.5% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ลดลง 2.6% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 4.3% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 3% หุ้นอินเทล ลดลง 3.1% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ร่วงลง 3.9% หุ้น Nvidia ดิ่งลง 6.1% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ร่วงลง 4%

หุ้นอูเบอร์ ผู้ให้บริการรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชัน ดิ่งลง 10.8% ปิดที่ระดับ 37.10 ดอลลาร์ ในการซื้อขายวันที่ 2 โดยราคายังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 45 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งเป็นราคาเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO)

หุ้น Lyft ซึ่งเป็นคู่แข่งของอูเบอร์ ร่วงลง 5.8% ขณะที่หุ้นเทสลา อิงค์ ร่วงลง 5.2%

ส่วนหุ้นของบริษัทจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กนั้น หุ้น New Oriental ร่วงลง 6.91% หุ้น 58.com ดิ่งลง 6.09% ขณะที่หุ้น JD.com บวกเพียง 0.04%

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าภาคธุรกิจเดือนมี.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนเม.ย., ดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จาก Conference Board และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ