ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) หลังจากร่วงลงอย่างหนักในวันจันทร์ โดยหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มสินค้าหรูหราหนุนตลาดดีดตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.01% ปิดที่ 376.34 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,341.35 จุด เพิ่มขึ้น 78.78 จุด หรือ +1.50% และ ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,991.62 จุด เพิ่มขึ้น 114.97 จุด หรือ +0.97% ส่วนดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,241.60 จุด เพิ่มขึ้น 77.92 จุด หรือ +1.09%
ตลาดฟื้นตัวขึ้น หลังจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มสินค้าหรูหรา ขณะที่นักลงทุนยังติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า จะต้องใช้เวลาอีก 3-4 สัปดาห์จึงจะทราบว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนประสบความสำเร็จหรือไม่ พร้อมทั้งระบุว่า สหรัฐกำลังอยู่ในสถานะที่ดีขึ้นในการทำข้อตกลงกับจีน ขณะที่เม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์กำลังไหลกลับสู่สหรัฐ
หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน หลังมีรายงานว่า กลุ่มก่อการร้ายได้ทำการโจมตีท่อส่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย โดยหุ้นบีพี บวก 1.58% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ เพิ่มขึ้น 1.61%
หุ้นหลุยส์ วิตตอง พุ่งขึ้น 3.26%
หุ้นเมโทร แบงก์ ดีดตัวขึ้น 6.95% หลังจากร่วงลงเกือบ 11% เมื่อวันจันทร์