ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 207.39 จุด หลังตัวเลขจ้างงานซบเซาหนุนคาดการณ์เฟดลดดอกเบี้ย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 6, 2019 06:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในไม่ช้า หลังจากตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐมีการขยายตัวในระดับต่ำสุดในรอบกว่า 9 ปี รวมทั้งการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้ออกมาสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,539.57 จุด เพิ่มขึ้น 207.39 จุด หรือ +0.82% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,826.15 จุด เพิ่มขึ้น 22.88 จุด หรือ +0.82% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,575.48 จุด เพิ่มขึ้น 48.36 จุด หรือ +0.64%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากนายพาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดจะดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ พร้อมระบุว่าเครื่องมือที่เฟดเคยใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ ซึ่งได้แก่ การกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ใกล้ 0% และการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE นั้น มีแนวโน้มที่จะนำมาใช้อีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในไม่ช้า โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 27,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 9 ปี หลังจากทะยานขึ้น 271,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานของภาคเอกชนจะพุ่งขึ้น 173,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.

ทั้งนี้ FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. และมีโอกาสมากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธ.ค.

ดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มสินค้าผู้บริโภค ดีดตัวขึ้น 2.3%, 2.1% และ 1.1% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 1.4%

หุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.6% หลังจากนายทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า แอปเปิลมีพฤติกรรมผูกขาดตลาด นอกจากนี้ นายทิม คุก ยังกล่าวด้วยว่า จีนไม่ได้พุ่งเป้าหมายตอบโต้บริษัท แม้สหรัฐและจีนกำลังมีความขัดแย้งทางการค้าในขณะนี้ก็ตาม

หุ้นแคมเบลล์ ซุป ทะยานขึ้น 10% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงิน 2562

หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ดีดตัวขึ้น 0.8% หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผล 20% สู่ระดับ 1.08 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.8% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 6.9% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ร่วงลง 1.9% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ดิ่งลง 1.6% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 4.5% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 3.5%

นักลงทุนจับตานายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดพบปะกับนายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ในการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่ม G20 ซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันนายมนูชินจะจัดการประชุมทวิภาคีกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศอื่นๆในกลุ่ม G20 อีก 9 ราย ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น, เยอรมนี และนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย., ผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 1/2562, ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย.

สำหรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นั้น นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ