ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 38.46 จุด ขานรับที่ประชุมเฟดตรึงดอกเบี้ย,ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 20, 2019 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มิ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ต่างก็ออกมายืนยันว่าจะพบปะกันนอกรอบการประชุมซัมมิตกลุ่ม G20 ที่นครโอซากาของญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,504.00 จุด เพิ่มขึ้น 38.46 จุด หรือ +0.15% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,926.46 จุด เพิ่มขึ้น 8.71 จุด หรือ +0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,987.32 จุด เพิ่มขึ้น 33.44 จุด หรือ +0.42%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติ 9-1 เสียงในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันเฟดได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง

ทั้งนี้ เฟดได้คงตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ระดับ 2.1% ในปีนี้ และปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ในปีหน้าสู่ระดับ 2.0% จากเดิมที่ 1.9% ขณะเดียวกันเฟดได้คงตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวในปี 2564 ที่ระดับ 1.8% และคงตัวเลขอัตราการขยายตัวในระยะยาวที่ระดับ 1.9%

นักลงทุนตั้งข้อสังเกตว่า ในแถลงการณ์การประชุมครั้งล่าสุดนี้ เฟดระบุว่าจะดำเนินการตามความเหมาะสม เพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ดำเนินต่อไป ซึ่งเฟดได้ตัดคำว่า "เฟดจะใช้ความอดทนก่อนที่จะมีการตัดสินใจปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ย" ตามที่เคยปรากฎในแถลงการณ์ฉบับก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดมีความพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น

หุ้นอะโดบี พุ่งขึ้น 5.2% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนบวก โดยราคาหุ้นอะโดบีพุ่งขึ้นหลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาสแรกที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ปรับตัวขึ้น 1% หลังจากนักวิเคราะห์ของเมอร์ริล ลินช์ ได้ให้อันดับความน่าลงทุนของหุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ที่ระดับ "buy" เนื่องจากธุรกิจและแบรนด์ของบริษัทมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง

หุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นอัลเลอร์แกน ทะยานขึ้น 6.2% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นไฟเซอร์ เพิ่มขึ้น 1%

หุ้นเฟซบุ๊ก ปรับตัวลง 0.5% หลังจากคณะกรรมาธิการด้านบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เรียกร้องให้เฟซบุ๊กระงับแผนการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัล Libra จนกว่าผู้บริหารเฟซบุ๊กจะเข้ามาชี้แจงแผนการดังกล่าวต่อสภาคองเกรส โดยอ้างถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 0.3% หลังจากนิตยสาร Nikkei Asian Review เปิดเผยว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ ได้แจ้งให้ซัพพลายเออร์รายใหญ่ของบริษัททำการประเมินค่าใช้จ่ายในการโยกการผลิตราว 15-30% ออกจากจีนไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่แอปเปิลทำการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของบริษัท ท่ามกลางการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

หุ้นกลุ่มธนาคารซึ่งต้องพึ่งพากำไรจากดอกเบี้ยนั้น ปรับตัวลง หลังจากเฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ลดลง 0.4% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 1% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส ลดลง 0.7% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ลดลง 0.5% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 1.05%

นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยล่าสุด นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) กล่าวว่า เขาจะเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่จีน ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมสุดยอดของกลุ่ม G20 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 28-29 มิ.ย. ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลบัญชีเดินสะพัดไตรมาส 1/2562, ดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จาก Conference Board, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต และยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ