ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 69.25 จุด เหตุวิตกสหรัฐเปิดศึกการค้ายุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 3, 2019 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาทการค้าอีกครั้ง หลังจากสหรัฐได้หันมาเปิดศึกการค้ากับสหภาพยุโรป (EU) ด้วยการขู่ว่าจะปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก EU วงเงิน 4 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าสหรัฐเพิ่งเจรจาสงบศึกการค้ากับจีนเมื่อเร็วๆนี้ก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,786.68 จุด เพิ่มขึ้น 69.25 จุด หรือ +0.26% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,109.09 จุด เพิ่มขึ้น 17.93 จุด หรือ +0.22% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,973.01 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด หรือ +0.29%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากมีรายงานว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้เสนอให้มีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจาก EU จำนวน 89 รายการ คิดเป็นมูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรายการสินค้าดังกล่าวครอบคลุมถึง ชีส นม กาแฟ วิสกี้ ผลิตภัณฑ์เนื้อหมู และผลิตภัณฑ์โลหะบางชนิด เช่นทองแดง โดย USTR จะจัดทำประชาพิจารณ์ในเดือนหน้าเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อ EU

ทั้งนี้ การที่สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีดังกล่าวต่อ EU หรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับผลการตัดสินขององค์การการค้าโลก (WTO) กรณีที่ EU ให้เงินอุดหนุนการผลิตเครื่องบิน โดยเฉพาะต่อบริษัทแอร์บัส

รายงานข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของข้อพิพาทการค้าอีกครั้ง แม้ว่าก่อนหน้านี้ ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการที่สหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะระงับการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าและเตรียมรื้อฟื้นการเจรจาการค้ารอบใหม่ และจากการที่สหรัฐได้ยกเลิกคำสั่งแบนบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีน

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลง 4.8% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของภาคการผลิตทั่วโลก โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.10% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 1.5% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ร่วงลง 5.1% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ลดลง 1.14% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2% หุ้นอาปาเช่ คอร์ป ดิ่งลงกว่า 6% และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 1.26%

หุ้นอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ ปรับตัวลง 0.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์สตีเฟล ได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นอูเบอร์ลงสู่ระดับ "hold"

ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นหุ้นที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจ (defensive stocks) และมีปัจจัยพื้นฐานดีนั้น ดีดตัวขึ้น โดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้น 1.82% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น 1.24%

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), คำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ