ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 311.78 จุด ขานรับจีนสร้างเสถียรภาพเงินหยวน,ทรัมป์เปิดกว้างเจรจากับจีน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 7, 2019 06:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) หลังจากจีนได้ออกมาเคลื่อนไหวในเชิงบวกด้วยการสร้างเสถียรภาพเงินหยวน ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนจะใช้หยวนเป็นเครื่องมือในการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงเปิดกว้างในการทำข้อตกลงการค้ากับจีน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,029.52 จุด พุ่งขึ้น 311.78 จุด หรือ +1.21% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,881.77 จุด เพิ่มขึ้น 37.03 จุด หรือ +1.30% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,833.27 จุด พุ่งขึ้น 107.23 จุด หรือ +1.39%

ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับค่าเงินหยวน หลังจากธนาคารกลางจีนได้กำหนดค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อวานนี้ที่ระดับ 6.9683 เทียบดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.9736 เทียบดอลลาร์

นักวิเคราะห์จากพรูเดนเชียล ไฟแนนเชียล ในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า การที่จีนเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า จีนต้องการให้เงินหยวนมีเสถียรภาพและแข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่จีนถูกรัฐบาลสหรัฐโจมตีว่ากระทำการปั่นค่าเงินด้วยการปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี เพียงเพื่อหวังผลในการแข่งขันด้านการค้า

นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับความเคลื่อนไหวในเชิงบวกจากฝั่งสหรัฐ โดยนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์ยังคงเปิดกว้างในการทำข้อตกลงการค้ากับจีน ซึ่งจะทำให้สหรัฐใช้ความยืดหยุ่นในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ขณะเดียวกันนายคุดโลว์เปิดเผยว่า สหรัฐต้องการเจรจากับจีนและกำลังเตรียมการที่จะให้เจ้าหน้าที่ของจีนเดินทางมายังสหรัฐในเดือนหน้า

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับสัญญาณบวกด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นอีตัน คอร์ป ทะยานขึ้น 2.7% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นโบอิ้ง ปรับตัวขึ้น 0.4% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ เพิ่มขึ้น 0.2%

หุ้นบริษัทเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิพที่เข้าไปลงทุนในประเทศจีน ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 1.6% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 1.03% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 1.9% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ดีดตัวขึ้น 1.4% หุ้นเน็ตฟลิตซ์ เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นอเมซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 1.3% และหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.5%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก เพิ่มขึ้น 1.7% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 0.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 1.6% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดีดตัวขึ้น 1.2%

หุ้นบางตัวในกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทรุดฮวบลง 10.9% หุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.1% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ดิ่งลง 3.7% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 1.7% แต่หุ้นเอ็กซอนโมบิล ดีดตัวขึ้น 1% และหุ้นเชฟรอน ปรับตัวขึ้น 0.5%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 36,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.3 ล้านตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ