ดาวโจนส์ทรุดเกือบ 300 จุด วิตกสงครามการค้า,ผวาจีนลุยฮ่องกง หลังชี้ม็อบ"ก่อการร้าย"

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 12, 2019 22:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดทรุดตัวลงเกือบ 300 จุด ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งความวุ่นวายในฮ่องกงจากการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาล ขณะที่จีนเตือนว่า กลุ่มผู้ประท้วงกำลังใช้ความรุนแรงมากขึ้น และบ่งชี้ถึงการก่อการร้าย ซึ่งอาจปูทางให้จีนใช้กองกำลังในการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมในฮ่องกง

ณ เวลา 22.17 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,002.90 จุด ลบ 284.54 จุด หรือ 1.08%

เจ้าหน้าที่จีนกล่าวในวันนี้ว่า การชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงในฮ่องกง กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้น และบ่งชี้ถึงการก่อการร้าย

"ฮ่องกงได้มาถึงทางแยกที่สำคัญ โดยกลุ่มผู้ประท้วงมักใช้เครื่องมือที่อันตรายในการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการก่ออาชญากรรมรุนแรง พร้อมกับมีสัญญาณการก่อการร้าย" นายหยาง กวง โฆษกสำนักงานฝ่ายกิจการฮ่องกงและมาเก๊าในกรุงปักกิ่ง กล่าว

ทั้งนี้ การที่ทางการจีนใช้คำว่า "ก่อการร้าย" ถือเป็นการเตือนอย่างรุนแรงที่สุดต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งอาจปูทางไปสู่การใช้กองกำลังความมั่นคงแห่งชาติของจีนในการปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมในฮ่องกง

ที่ผ่านมา จีนได้เคยใช้ข้ออ้างของการก่อการร้ายในการกวาดล้างกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในซินเจียง และทิเบต ซึ่งทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากรัฐบาลของชาติตะวันตก และกลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชน

"ฮ่องกงเป็นของจีน และกิจการของฮ่องกงถือเป็นกิจการภายในของจีน" กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ

ทางด้านท่าอากาศยานฮ่องกงออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางสนามบินจะเริ่มให้บริการต่อเที่ยวบินต่างๆในวันพรุ่งนี้เวลา 06.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่มีการสั่งปิดสนามบินในวันนี้ เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลจำนวนหลายพันคนได้เข้ายึดอาคารที่พักผู้โดยสาร

ก่อนหน้านี้ ท่าอากาศยานฮ่องกงออกแถลงการณ์เวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า เที่ยวบินที่เหลือในวันนี้ได้ถูกยกเลิกทั้งหมด ยกเว้นเที่ยวบินขาออกที่มีการเช็คอินผู้โดยสารเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งเที่ยวบินขาเข้าที่ได้ลงจอดในฮ่องกงแล้ว

ทั้งนี้ การชุมนุมของชาวฮ่องกงได้ลุกลามออกไปจากเดิมที่เป็นการประท้วงร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน กลายเป็นการชุมนุมเรียกร้องให้นางแคร์รี ลัม ลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง และเรียกร้องให้มีประชาธิปไตยในฮ่องกง รวมทั้งให้ฮ่องกงเป็นอิสระจากจีนแผ่นดินใหญ่

นอกจากนี้ ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้รุนแรงขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาจะเก็บภาษีนำเข้า 10% จากสินค้าจีนวงเงิน 3 แสนล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 ก.ย.นี้ และกระทรวงการคลังสหรัฐได้ระบุอย่างเป็นทางการว่า จีนเป็นประเทศที่ปั่นค่าเงิน ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการปล่อยให้หยวนอ่อนค่าลงต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี และรัฐบาลจีนยังได้สั่งให้บริษัทของรัฐระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐ

ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราค่ากลางของหยวนที่ระดับ 7.0211 หยวนต่อดอลลาร์ในวันนี้ โดยอ่อนค่าลงจากวันศุกร์ และเป็นระดับต่ำกว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์เป็นวันทำการที่ 3

ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐกำลังเจรจาการค้ากับจีน แต่สหรัฐยังไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงกับจีน

นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะยังคงยืดเยื้อต่อไป และไม่มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า

นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังได้ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐประจำไตรมาส 4 สู่ระดับ 1.8% จากเดิมที่ระดับ 2.0% โดยระบุถึงผลกระทบจากการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่มากกว่าคาด

ทางด้านแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ออกรายงานเตือนว่า จากข้อมูลล่าสุด ทางธนาคารเชื่อว่ามีโอกาสมากกว่า 30% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐปีหน้า

"แบบจำลองอย่างเป็นทางการของเราคาดการณ์ว่า มีแนวโน้ม 20% ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า แต่การวิเคราะห์ของเรา โดยอิงจากข้อมูลล่าสุด ทำให้เราเชื่อว่า มีโอกาสถึง 1 ใน 3 ที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย" นายอีธาน แฮร์ริส นักเศรษฐศาสตร์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา กล่าว

ทั้งนี้ ความไม่แนนอนที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ได้ฉุดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรดิ่งลง และกดดันให้ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง แต่การลงทุนในภาคธุรกิจยังคงอยู่ในระดับต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ