ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก หลังนลท.คลายวิตกการเมืองอังกฤษ,ฮ่องกง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 5, 2019 06:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการเมืองในอังกฤษและฮ่องกง ขณะที่ตลาดหุ้นอิตาลีทะยานขึ้นขานรับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.89% ปิดที่ 383.18 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,532.07 จุด เพิ่มขึ้น 66.00 จุด หรือ +1.21%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,025.04 จุด เพิ่มขึ้น 114.18 จุด หรือ +0.96% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,311.26 จุด เพิ่มขึ้น 43.07 จุด หรือ +0.59%

ตลาดได้แรงหนุน เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการเมืองในอังกฤษและฮ่องกง โดยในฮ่องกงนั้น นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษได้ประกาศถอนร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังประเทศจีนอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวได้จุดชนวนทำให้ชาวฮ่องกงจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ และออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนเป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากมองว่าร่างกฎหมายนี้จะเปิดทางให้มีการส่งตัวผู้กระทำผิดกฎหมาย หรือผู้ที่รัฐบาลจีนมองว่าเป็นศัตรูทางการเมืองไปยังจีน

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้นราว 4% ขานรับการถอนร่างกฎหมายดังกล่าว ขณะที่ตลาดหุ้นหลายแห่งต่างปรับตัวขึ้นเช่นกัน หลังจากที่เกิดความวิตกก่อนหน้านี้ว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในฮ่องกงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และจะเป็นอุปสรรคต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

ส่วนสถานการณ์การเมืองของอังกฤษล่าสุดนั้น สภาสามัญชนของอังกฤษให้การอนุมัติร่างกฎหมายป้องกันการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปโดยไม่มีการทำข้อตกลง หรือ "no-deal Brexit" ด้วยคะแนนเสียง 327 ต่อ 299 เสียงในวันนี้ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการกดดันให้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี ร้องขอต่อสหภาพยุโรป (EU) เพื่อขยายกำหนดเส้นตายในการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU ไปเป็นวันที่ 31 ม.ค. 2563 จากเดิมวันที่ 31 ต.ค.นี้ หากนายจอห์นสันไม่สามารถยื่นข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ต.ค.

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ตลาดหุ้นอิตาลีพุ่งขึ้น ขานรับการที่พรรคไฟว์ สตาร์ มูฟเมนท์ (M5S) และพรรคเดโมเครติค พาร์ตี (DP) ของอิตาลี สามารถร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลผสมใหม่ขึ้น ซึ่งได้ช่วยคลายกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการจัดการเลือกตั้งใหม่ และความไร้เสถียรภาพทางการเมืองที่ยืดเยื้อ

หุ้นบวกนำตลาดได้แก่ หุ้นอาร์เซโลมิตตัลและหุ้นหลุยส์วิตตองของฝรั่งเศส พุ่ง 5.86% และ 3.61% ตามลำดับ, หุ้นไวร์การ์ดและหุ้นธิซเซ่นครุปป์ของเยอรมนี พุ่ง 4.53% และ 3.48% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นพรูเดนเชียลและหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 3.60% และ 3.40% ตามลำดับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ