ดาวโจนส์ดิ่งเกือบ 200 จุด วิตกการเมืองป่วน หลังสภาเตรียมถอดถอน"ทรัมป์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 25, 2019 00:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 200 จุดในวันนี้ ท่ามกลางความปั่นป่วนทางการเมืองในสหรัฐ หลังประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเตรียมออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีการติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงในเดือนก.ย. และการร่วงลงของหุ้นเน็ตฟลิกซ์

ณ เวลา 00.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,764.29 จุด ลบ 185.70 จุด หรือ 0.69%

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า ตนจะออกแถลงการณ์ในวันนี้เกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง

ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้กดดันนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และนายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของเขา

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้สั่งระงับการให้งบช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนจำนวนราว 400 ล้านดอลลาร์ในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนที่เขาจะโทรศัพท์ติดต่อนายเซเลนสกี

มีการมองกันว่า ปธน.ทรัมป์กำลังใช้งบช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐเพื่อกดดันนายเซเลนสกีให้มีการสอบสวนนายไบเดน และบุตรชาย

ปธน.ทรัมป์ยอมรับว่า เขาได้โทรศัพท์ไปยังนายเซเลนสกีในเดือนก.ค. แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการกดดันผู้นำยูเครน

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้กล่าวหานายไบเดนและบุตรชายว่าได้ทำการคอร์รัปชั่น โดยระบุว่านายไบเดนพยายามใช้ตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐในการช่วยเหลือบุตรชาย โดยพยายามมิให้เจ้าหน้าที่ยูเครนตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับนายฮันเตอร์

อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ไม่ได้แสดงหลักฐานในการกล่าวหานายไบเดนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ หากปธน.ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการสกัดนายไบเดนออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ปธน.ทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย

นางเอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกสหรัฐ กล่าวเรียกร้องให้มีการถอดถอนปธน.ทรัมป์ออกจากตำแหน่ง จากกรณีที่มีการติดต่อกับรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้มีการแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ

"เขาได้โน้มน้าวให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาโจมตีระบบเลือกตั้งของเรา ขณะนี้จึงถึงเวลาแล้วที่เราจะประกาศถึงพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายนี้ และเริ่มต้นกระบวนการถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง" นางวอร์เรนกล่าว

ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 125.1 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 133.5 จากระดับ 134.2 ในเดือนส.ค.

ผู้บริโภคสหรัฐลดความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รวมทั้งความเชื่อมั่นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค และความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และในช่วง 6 เดือนข้างหน้า, สถานะการเงินส่วนบุคคล และการจ้างงาน

ราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์ดิ่งลงกว่า 2% หลังจากที่นักวิเคราะห์แสดงความกังวลต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัท

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า จีนได้สั่งนำเข้าถั่วเหลืองจำนวน 600,000 ตันจากสหรัฐ หลังการเจรจาการค้าในระดับรัฐมนตรีช่วยระหว่างสหรัฐและจีนที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์ที่แล้ว

ถั่วเหลืองจำนวน 600,000 ตันดังกล่าว ถือเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่ที่จีนปรับเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากถั่วเหลืองที่นำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 25% ในเดือนก.ค.ปีที่แล้ว เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ได้เพิ่มภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน

การที่จีนสั่งซื้อถั่วเหลืองดังกล่าว ถือเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อการบรรลุข้อตกลงการค้าในการเจรจาในระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีนที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้บริษัทจีนหลายแห่งสามารถนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐอย่างน้อย 2 ล้านตันโดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า

นอกจากนี้ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า การที่จีนได้ประกาศยกเลิกการเดินทางไปเยือนฟาร์มสหรัฐนั้น เป็นไปตามคำขอจากรัฐบาลสหรัฐเอง เนื่องจากตนไม่ต้องการก่อให้เกิดความสับสนในตลาด เพราะจีนก็ได้เริ่มซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐแล้ว

นายมนูชินยังยืนยันว่า การเจรจาการค้าในระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีนจะมีขึ้นตามกำหนดในเดือนหน้า

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.2% เช่นกันในเดือนมิ.ย.

ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนก.ค. ชะลอตัวจากระดับ 2.2% ในเดือนมิ.ย.

ราคาบ้านเพิ่มขึ้นสูงสุดในเมืองฟีนิกซ์, ลาสเวกัส และชาร์ลอตต์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ