ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าอ่อนตัวลง เหตุวิตกการเมืองสหรัฐหลังสภาฯเล็งถอดถอน"ทรัมป์"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 25, 2019 11:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าวันนี้อ่อนตัวลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในสหรัฐ ภายหลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศการเริ่มกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ 21,988.28 จุด ลดลง 110.56 จุด, -0.50% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 26,031.92 จุด ลดลง 249.08 จุด, -0.95% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดภาคเช้าที่ 1,587.73 จุด ลดลง 4.60 จุด, -0.29%

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองปธน.สหรัฐ ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ

"ดิฉันขอประกาศในวันนี้ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะเริ่มกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการ เพื่อถอดถอนปธน.ทรัมป์" นางเพโลซีกล่าวในแถลงการณ์ หลังจากที่ได้เข้าร่วมประชุมเป็นการภายในร่วมกับบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรคเดโมแครต

นายหวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า การเริ่มต้นสงครามการค้าฝ่ายเดียวนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในงานรับประทานอาหารค่ำซึ่งคณะกรรมการแห่งชาติจีนเพื่อความสัมพันํ์สหรัฐ-จีน, สภาธุรกิจสหรัฐ-จีน,หอการค้าสหรัฐ และสภาความสัมพันธ์ต่างประเทศ ได้ร่วมกันจัดขึ้นที่กรุงนิวยอร์กนั้น นายหวังกล่าวว่า ความเป็นโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ (Economic Globalization) ซึ่งเป็นกระแสในปัจจุบันนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถสกัดกั้นได้

นอกจากนี้ นายหวังยังได้ระบุอีกด้วยว่า ความร่วมมือซึ่งได้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่ายนั้นเป็นทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดสำหรับจีนและสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายไม่ควรฉกฉวยประโยชน์จากกันและกัน

ทั้งนี้ นายหวังกล่าวว่า การแยกตัวออกจากเศรษฐกิจจีน เท่ากับการสูญเสียโอกาสอันดีในอนาคต โดยจีนไม่เคยปิดโอกาส ในทางตรงกันข้าม จีนได้พยายามเปิดกว้างทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นนโยบายที่สำคัญของประเทศ

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า กรรมการ BOJ ได้หารือถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการรับมือล่วงหน้า เพื่อป้องกันความเสี่ยงขาลงของเศรษฐกิจและตัวเลขเงินเฟ้อ

กรรมการรายหนึ่งระบุว่า มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่การเพิ่มความแข็งแกร่งในการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางในสหรัฐและยุโรป จะเพิ่มแรงกดดันขาลงต่อตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นผ่านทางอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องรับมือกับความเสี่ยงขาลงของราคาด้วยการดำเนินนโยบายป้องกันล่วงหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ