ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 494.42 จุด วิตกสงครามการค้าสหรัฐ-ยุโรป,ศก.สหรัฐส่งสัญญาณชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 3, 2019 06:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทรุดตัวลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและยุโรป นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐ หลังจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนขยายตัวในอัตราที่ชะลอลง และภาคการผลิตหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,078.62 จุด ร่วงลง 494.42 จุด หรือ -1.86% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,887.61 จุด ลดลง 52.64 จุด หรือ -1.79% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,785.25 จุด ลดลง 123.44 จุด หรือ -1.56%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักหลังจากองค์การการค้าโลก (WTO) ลงมติเห็นชอบต่อข้อเรียกร้องของสหรัฐในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปวงเงิน 7.5 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากรัฐบาลในประเทศยุโรปให้การอุดหนุนบริษัทแอร์บัสอย่างผิดกฎหมาย พร้อมระบุว่า สหภาพยุโรป (EU) ได้ปฏิเสธที่จะดำเนินการเพื่อลดผลกระทบจากมาตรการให้การอุดหนุนแอร์บัส หรือยกเลิกมาตรการดังกล่าว ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผลประโยชน์ของสหรัฐ โดยทำให้ยอดขายของเครื่องบินขนาดใหญ่ของสหรัฐทรุดตัวลงอย่างมาก

สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ได้ออกแถลงการณ์ในเวลาต่อมาว่า สหรัฐจะเริ่มดำเนินการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจาก EU ตามมติเห็นชอบของ WTO ในวันที่ 18 ต.ค.นี้ โดยจะเก็บภาษีเครื่องบินพลเรือนขนาดใหญ่ ในอัตรา 10% และเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าเกษตรและสินค้าประเภทอื่นๆ

ทางด้านนางเซซิเลีย มัลสตรอม ประธานคณะกรรมาธิการการค้าของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า EU พร้อมจะตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากยุโรปตามคำตัดสินของ WTO

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างความกังวลให้กับนักลงทุน โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนส.ค.ที่มีการขยายตัว 157,000 ตำแหน่ง

ขณะที่ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 47.8 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 โดยดัชนียังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะหดตัวของภาคการผลิตของสหรัฐ และเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 2

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 2% หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ร่วงลง 2.5% หุ้น 3M ลดลง 1.7% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ร่วงลง 1.9% หุ้นฮันนีเวลล์ ดิ่งลง 1.9% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก ลดลง 1.16%

ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นแอปเปิล ร่วงลง 2.5% หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ดิ่งลง 2.47% หุ้นอินเทล ร่วงลง 2.7% หุ้นเฟซบุ๊ก ลดลง 0.7% หุ้นอเมซอนดอทคอม ร่วงลง 1.3% หุ้นอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล ร่วงลง 2.3% หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 1.7% หุ้นบรอดคอม ลดลง 1.7% หุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี) ร่วงลง 1.56%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงติดต่อกัน 7 วันทำการ โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 2.2% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 3.2% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 2.6% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ลดลง 1.9% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ลดลง 0.7% หุ้นอาปาเช คอร์ป ร่วงลง 4.4%

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในสหรัฐ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ร่วงลง 2% หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 2.7% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 2.08% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 2.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ดิ่งลง 2.8% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ลดลง 1.1%

หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ร่วงลง 3.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์ลดลงในไตรมาส 3 ขณะที่หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ดิ่งลง 4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.จะเพิ่มขึ้น 145,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. และดุลการค้าเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ