ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกข้อตกลงการค้าสหรัฐ-จีนอาจล่าช้าถึงปลายปีหน้า

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) โดยถูกกดดันหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐส่งสัญญาณว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน อาจล่าช้าออกไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีหน้า

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลบ 0.63% ปิดที่ 398.48 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,727.22 จุด ลดลง 59.52 จุด หรือ -1.03% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,158.76 จุด ลดลง 127.18 จุด หรือ -1.75% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,989.29 จุด เพิ่มขึ้น 24.61 จุด หรือ +0.19%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่างที่กรุงลอนดอนว่า "ผมชอบแนวคิดที่ว่าให้รอจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งปีหน้า จึงจะทำข้อตกลงการค้ากับจีน แต่ทางฝ่ายจีนต้องการทำข้อตกลงในขณะนี้ และเราจะดูว่าข้อตกลงจะมีความเหมาะสมหรือไม่"

ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ปธน.ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าเหล็กกล้า และอลูมิเนียมจากบราซิลและอาร์เจนตินาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับการค้าโลก

หุ้นกลุ่มทรัพยากรร่วงลง เนื่องจากมีความอ่อนไหวกับข่าวเกี่ยวกับโลหะและการค้าโลก

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับผลกระทบจากการที่นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า เขาได้เสนอให้รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการเพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากฝรั่งเศส วงเงิน 2.4 พันล้านดอลลาร์ โดยระบุว่า ผลการตรวจสอบนโยบายภาษีบริการด้านดิจิทัลของฝรั่งเศสพบว่า เป็นนโยบายที่ "ไม่สมเหตุสมผล" และ "เลือกปฏิบัติ"

หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราของฝรั่งเศสร่วงลงจากข่าวดังกล่าว อาทิ หุ้นเคอริ่ง ลบ 1.87%, หุ้นแอร์เมส ร่วง 2.53% และหุ้นหลุยส์ วิตตอง ลดลง 1.48%

บรรดานักลงทุนกำลังจับตาการประชุมระดับสูงของผู้นำองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นการฉลองครบรอบ 70 ปีของการก่อตั้งนาโต้ด้วย