ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ในคืนนี้ โดยยังคงได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐและจีนประกาศบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 19.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 40 จุด หรือ 0.14% สู่ระดับ 28,205 จุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุเมื่อวันศุกร์ว่า สหรัฐสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีน และสหรัฐจะไม่เรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค.
อย่างไรก็ดี สหรัฐจะยังคงเก็บภาษี 25% ต่อสินค้าจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ และเก็บภาษี 7.5% ต่อสินค้าจีนวงเงิน 1.2 แสนล้านดอลลาร์
ปธน.ทรัมป์ยังระบุว่า จีนได้ตกลงที่จะทำการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างหลายประการ และจะเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตร พลังงาน และสินค้าในภาคการผลิตของสหรัฐ
นอกจากนี้ สหรัฐและจีนจะเริ่มการเจรจาข้อตกลงการค้าเฟสสองโดยทันที แทนที่จะรอจนกว่าหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปีหน้า
ขณะเดียวกัน ทางการจีนได้จัดการแถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเมื่อวันศุกร์ โดยยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก โดยการเจรจามีความคืบหน้าอย่างมาก
นอกจากนี้ จีนยังระบุว่า สหรัฐจะทยอยยกเลิกการจัดเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน ขณะที่จีนจะเพิ่มการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐ แต่ไม่มีการระบุวงเงินแต่อย่างใด
สำหรับขั้นตอนต่อไป ทั้งสองฝ่ายจะนำข้อตกลงดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา และกำหนดวันในการลงนามต่อข้อตกลง
นอกจากนี้ คาดว่าบรรยากาศการซื้อขายในตลาดวันนี้จะได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่แข็งแกร่ง หลังการเปิดเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นในเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ดี ช่วงบวกของดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ถูกจำกัดจากการทรุดตัวลงกว่า 4% ของราคาหุ้นโบอิ้งในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังมีข่าวว่าบริษัทอาจประกาศแผนการระงับการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 MAX ในวันนี้ หลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ระบุว่า FAA ไม่มีแนวโน้มที่จะให้ใบอนุญาตการบินแก่เครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX จนกว่าจะถึงปีหน้า