บรรดาผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า กฎหมายหลักทรัพย์ฉบับใหม่ของจีนซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค.นี้ นับเป็นมาตรการสำคัญอีกขั้นในความพยายามของจีนที่จะเดินหน้าเปิดเสรีตลาดทุน ซึ่งเป็นตลาดที่มีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นสำหรับบริษัทจีนและนักลงทุนต่างชาติ
สภานิติบัญญัติของจีนได้อนุมัติกฎหมายหลักทรัพย์ฉบับแก้ไขใหม่ในปลายปี 2562 ซึ่งนับเป็นเวลาเกือบ 5 ปีหลังจากร่างกฎหมายฉบับแก้ไขดังกล่าวได้ถูกยื่นให้สภาพิจารณาวาระแรกในเดือนเม.ย. 2558
นายมาร์ค ช้าบ ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทกฎหมายคิง แอนด์ วู้ด มัลเลสันส์กล่าวว่า "การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในกฎหมายหลักทรัพย์ที่มีการปรับแก้ไขนั้น รวมถึงระบบการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ที่อิงกับการจดทะเบียน (แทนกรอบระเบียบการอนุมัติแบบเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน) และข้อกำหนดในการเปิดเผยข้อมูล และกฎเกณฑ์การปกป้องนักลงทุน"
นายช้าบเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า ขณะที่มาตรการดังกล่าวได้รับการเปิดเผยในปีที่ผ่านมา เขาคาดว่า กระแสเงินทุนหมุนเวียนและปฏิสัมพันธ์ระหว่างจีนและทั่วโลก จะเพิ่มขึ้น
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้ออกกฎระเบียบในเดือนมี.ค. 2562 สำหรับกระดานหุ้นวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี (STAR Market) ซึ่งจะนำร่องระบบ IPO ที่อิงกับการจดทะเบียน โดยเป็นแนวทางการปฏิบัติที่ได้รับความนิยมในตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้วจำนวนมาก
นายช้าบกล่าวว่า "มาตรการดังกล่าวซึ่งจะเพิ่มความโปร่งใสและสามารถการตรวจสอบได้มากขึ้นนั้น จะเพิ่มความน่าดึงดูดใจของตลาดทุนจีนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ"
นายหู จินหมิง ซีอีโอของจีเอฟ อินเตอร์เนชันแนล แอสเซท แมเนจเมนต์ (สหราชอาณาจักร) เปิดเผยว่า ระบบ IPO ที่อิงกับการจดทะเบียนซึ่งจะลดข้อกำหนดสำหรับบริษัทต่างๆ ในการขอจดทะเบียนใหม่ โดยเปลี่ยนการพิจารณาจากบริษัทที่มีความสามารถในการทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ไปเป็นบริษัทที่สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องนั้น นับเป็นสิ่งที่มีการคาดหวังกันไว้อย่างมาก และเป็นไปตามแบบแผนการปฏิบัติระหว่างประเทศ
นายเฮนรี หวง ศาสตราจารย์ของโรงเรียนธุรกิจซี ซิมส์ของมหาวิทยาลัยเยชิวาในนิวยอร์กกล่าวว่า กฎหมายที่มีการปรับแก้ไขดังกล่าวมีนัยสำคัญอย่างมากสำหรับตลาดทุนจีน โดยคล้ายคลึงกับกฎหมายหลักทรัพย์ของสหรัฐปี 1933 และกฎหมายตลาดหลักทรัพย์สหรัฐปี 1934
นายหวงกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า การเปิดเสรีกลไก IPO ในกฎหมายหลักทรัพย์ใหม่จะอนุญาตให้บริษัทชั้นนำบางแห่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จีน และจีนจะส่งเสริมให้บริษัทต่างๆ ของจีนที่จดทะเบียนหุ้นในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะบริษัทด้านเทคโนโลยีชั้นสูง ให้กลับมาเสนอขายหุ้นในตลาดภายในประเทศ
นายหวงระบุว่า หากการบังคับใช้กฎหมายหลักทรัพย์ใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น ทางเลือกแรกของบริษัทจีนก็ควรจะเป็นการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นจีน โดยเชื่อว่าบรรดามืออาชีพ อาทิ นักบัญชี, นักวิเคราะห์ และนักกฎหมาย จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในตลาดทุนจีน
ขณะที่กฎหมายหลักทรัพย์ใหม่จะลดกฎเกณฑ์ในการเข้าจดทะเบียนของบริษัทต่างๆนั้น บรรดานักวิเคราะห์คาดว่า กลุ่มแรกที่จะได้รับผลกระทบได้แก่หุ้นของบริษัทจดทะเบียนที่จัดอยู่ในอันดับขยะ ขณะที่กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์นั้นได้แก่บริษัทด้านเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ต รวมถึงบริษัทอื่นๆ
กฎหมายหลักทรัพย์ฉบับแก้ไขใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค.นั้น มี 14 มาตรา ซึ่งเป็นรายละเอียดกฎระเบียบด้านการออกหลักทรัพย์และการซื้อขายหลักทรัพย์, การเทคโอเวอร์บริษัทจดทะเบียน, การเปิดเผยข้อมูล และการปกป้องนักลงทุน
ในเดือนเม.ย. 2558 ร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวได้ถูกยื่นให้กับสภานิติบัญญัติพิจารณาวาระแรก ส่วนการพิจารณาวาระที่ 2, 3 และ 4 นั้นมีขึ้นในเดือนเม.ย. 2560, เม.ย. 2562 และ ธ.ค. 2562 ตามลำดับ
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตลาดจะจับตาอย่างใกล้ชิดว่า กฎหมายใหม่ดังกล่าวจะมีการบังคับใช้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่น การกำหนดมาตรฐานการจดทะเบียนหุ้นจากความสามารถในการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับการทำ IPO โดยอิงกับการจดทะเบียน
นายเชง เหอฮง ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายของ CSRC เปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า "สภาแห่งรัฐของจีนจะตัดสินใจเกี่ยวกับขอบเขต และมาตรการของการปฏิรูปที่อิงกับการจดทะเบียน ซึ่งจะทำให้การปฏิรูปเป็นไปทีละขั้นตอน และมีความยืดหยุ่น"