ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนลบในวันนี้ โดยปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 6 วัน หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้
ณ เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 29,307.22 จุด ลบ 40.88 จุด หรือ 0.14%
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการวานนี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน รวมถึงผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากการที่สหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก
อย่างไรก็ดี ตลาดปรับตัวลงในการซื้อขายวันนี้ หลังจากที่นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวว่า ข้อตกลงการค้าเฟสสองที่สหรัฐจะเจรจากับจีน อาจจะไม่มีการปรับลดอัตราภาษีสินค้าทั้งหมดที่มีการบังคับใช้ในขณะนี้
"เราอาจทำข้อตกลงเฟส 2A ก่อน และยกเลิกการเก็บภาษีบางส่วน โดยเราจะทำเช่นนี้ทีละส่วน" นายมนูชินกล่าวต่อหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล
คำกล่าวของนายมนูชิน สอดคล้องกับที่เขากล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐจะปรับลดอัตราภาษีสินค้าที่นำเข้าจากจีนในข้อตกลงการค้าเฟสสอง ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็นหลายรอบ
"เราจะมีการปรับลดอัตราภาษีเพิ่มเติมในข้อตกลงการค้าเฟส 2 โดยข้อตกลงเฟส 2 อาจถูกแบ่งออกเป็น 2A, 2B, 2C ซึ่งเราจะดูกันต่อไป" นายมนูชินกล่าว
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
นายร็อบ คาร์เนลล์ หัวหน้านักวิเคราะห์ของธนาคารไอเอ็นจี ระบุเตือนว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง หากผู้บริโภคเกิดความตื่นตระหนก
ขณะเดียวกัน นักลงทุนมีความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้า