ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงกว่า 100 จุด หลัง"แอปเปิล"คาดรายได้วูบจากพิษไวรัสโควิด-19

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 18, 2020 20:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ หลังจากที่บริษัทแอปเปิล อิงค์ยอมรับว่ารายได้อาจต่ำกว่าคาด อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีน

ณ เวลา 20.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 172 จุด หรือ 0.59% สู่ระดับ 29,223 จุด

ราคาหุ้นแอปเปิล อิงค์ดิ่งลงกว่า 3% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังบริษัทยอมรับว่ารายได้ในเดือนม.ค.-มี.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 2 ตามปีงบการเงินของบริษัท อาจต่ำกว่าคาด อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจีน

แอปเปิลระบุว่า การผลิต iPhone ในจีนได้สะดุดลงชั่วคราว เนื่องจากสายการผลิตได้หยุดชะงักลง ขณะที่จีนประกาศขยายวันหยุดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ส่งผลให้ร้านค้าและโรงงานจำนวนปิดการดำเนินงานนานกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้

ก่อนหน้านี้ แอปเปิลคาดการณ์ว่า รายได้ของบริษัทจะอยู่ในช่วง 6.3-6.7 หมื่นล้านดอลลาร์ในในเดือนม.ค.-มี.ค. ซึ่งเป็นไตรมาส 2 ตามปีงบการเงินของบริษัท

ราคาหุ้นบริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ วอลมาร์ทระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.38 ดอลลาร์/หุ้น ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.43 ดอลลาร์/หุ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทมีรายได้ 1.417 แสนล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.425 แสนล้านดอลลาร์

ส่วนยอดขายในสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.3%

นักลงทุนยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ออกรายงานระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเพิ่มแรงกดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะในภาคการค้าและการท่องเที่ยว

"เศรษฐกิจในภูมิภาคได้ชะลอตัวลงอย่างมากในปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการค้าโลก" รายงานระบุ

นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังเตือนเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่โรงงานจำนวนมากในจีนปิดทำการ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

มูดี้ส์ยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้ สู่ระดับ 5.2% จากเดิมที่ระดับ 5.8% โดยระบุว่า "การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่รุนแรง แต่กินเวลาไม่มาก ขณะที่ผลกระทบลุกลามต่อเศรษฐกิจทั่วภูมิภาค"

มูดี้ส์ระบุว่า มาเก๊าและฮ่องกงจะถูกกระทบหนักที่สุด เนื่องจากมีระบบเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับจีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ