ดาวโจนส์ลดช่วงติดลบ หลังเฟดประกาศอัดฉีดเงินครั้งใหญ่สกัดพิษโควิด-19

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 13, 2020 00:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงติดลบในวันนี้ หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศอัดฉีดเงินครั้งใหญ่เข้าสู่ระบบธนาคาร เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ณ เวลา 00.21 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 22,087.84 จุด ลบ 1,465.38 จุด หรือ 6.24% หลังจากทรุดตัวลงกว่า 2,100 จุดในช่วงแรก

ทั้งนี้ เฟดประกาศอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบธนาคาร พร้อมกับเพิ่มประเภทของหลักทรัพย์ในการซื้อพันธบัตรของเฟด เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

"การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อรับมือกับภาวะผันผวนในตลาดพันธบัตร ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19" แถลงการณ์จากเฟดสาขานิวยอร์กระบุ

เฟดระบุว่า ในการซื้อหลักทรัพย์ในตลาดเงินวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งขณะนี้จำกัดอยู่เพียงพันธบัตรระยะสั้นนั้น เฟดจะเพิ่มประเภทของหลักทรัพย์ที่ซื้อเพื่อให้รวมถึงตั๋วเงินคลัง, หลักทรัพย์คุ้มครองเงินเฟ้อ รวมทั้งเครื่องมือทางการเงินประเภทอื่นๆ โดยเฟดจะเริ่มซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวในวันนี้จนถึงวันที่ 13 เม.ย.

นอกจากนี้ เฟดจะทำการซื้อคืนพันธบัตรระยะ 3 เดือนวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ในวันนี้ ส่วนในวันพรุ่งนี้ เฟดจะซื้อคืนพันธบัตรระยะ 3 เดือนวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์ และซื้อคืนพันธบัตรระยะ 1 เดือนวงเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน เฟดจะซื้อคืนพันธบัตรข้ามคืนวงเงิน 1.75 แสนล้านดอลลาร์ในการดำเนินการทุกวัน และซื้อคืนพันธบัตรระยะ 2 สัปดาห์วงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในการดำเนินการสัปดาห์ละ 2 ครั้ง

การแทรกแซงตลาดของเฟดในครั้งนี้ถือเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นครั้งที่ 3 ในสัปดาห์นี้

ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงอย่างหนัก หลังมีการใช้ระบบ circuit breaker เพื่อพักการซื้อขายในช่วงแรก ขณะที่นักลงทุนเกิดความตื่นตระหนกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปเข้าสู่สหรัฐ

การประกาศใช้ระบบ circuit breaker ในวันนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กประกาศพักการซื้อขายเป็นเวลา 15 นาที หลังจากเปิดตลาดได้เพียง 5 นาที เนื่องจากดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 1,800 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ทรุดตัวลง 7% ส่งผลให้มีการใช้ระบบ circuit breaker เพื่อระงับการซื้อขายชั่วคราว

ปธน.ทรัมป์ประกาศว่า สหรัฐจะระงับการเดินทางจากประเทศในยุโรปทั้งหมด ยกเว้นสหราชอาณาจักร ในช่วง 30 วันข้างหน้า โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้ตำหนิสหภาพยุโรป (EU) ที่ไม่ดำเนินมาตรการควบคุมการเดินทางจากจีนตั้งแต่ช่วงที่ไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด

ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์ระบุว่า ไวรัสโควิด-19 ได้เข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลก หลังมีการลุกลามไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆ

"ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนได้เพิ่มขึ้นถึง 13 เท่า และจำนวนประเทศที่ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ส่วนในช่วงหลายวันและหลายสัปดาห์ข้างหน้า เราคาดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต และจำนวนประเทศที่ติดเชื้อจะเพิ่มมากขึ้นอีก" นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าว

นอกจากนี้ นายแพทย์ทีโดรสยังได้กล่าวตำหนิผู้นำของหลายประเทศที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างเฉียบขาดและรวดเร็วเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ