ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 800 จุด ต่อเนื่องจากที่ทะยานขึ้นเมื่อวานนี้ ขานรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในหลายประเทศได้ชะลอตัวลง
ณ เวลา 20.56 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,499.91 จุด บวก 819.92 จุด หรือ 3.55%
ข้อมูลล่าสุดระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 1,358,958 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 75,897 ราย โดยสหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก จำนวน 367,650 ราย ขณะที่อิตาลีเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก จำนวน 16,523 ราย
ทางการจีนแถลงว่า ข้อมูล ณ วันที่ 6 เม.ย.ระบุว่า จีนไม่มีผู้เสียชีวิตรายใหม่จากโควิด-19 ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่เกาหลีใต้รายงานยอดผู้เสียชีวิตต่ำกว่า 50 รายเป็นวันที่ 2
นครลอส แองเจลิส รวมทั้งเคาน์ตี้ลอส แองเจลิสรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 7% ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการรายงานตัวเลขเพิ่มขึ้นเป็นเปอร์เซนต์เพียงหนึ่งหลัก นับตั้งแต่ที่มีการรายงานตัวเลขดังกล่าวในเดือนมี.ค.
นายเอริค การ์เซตตี นายกเทศมนตรีลอส แองเจลิส กล่าวว่า "ตัวเลขในวันจันทร์มักเป็นตัวเลขที่ต่ำ เนื่องจากมีคนทำงานในวันอาทิตย์ไม่มากนัก ทำให้มีการตรวจหาเชื้อไม่มาก แต่ตัวเลขที่ต่ำก็ถือเป็นข่าวดี ซึ่งแสดงว่าสิ่งที่เราทำกำลังเห็นผล"
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ขณะนี้กำลัง"มีแสงสว่างอยู่ที่ปลายอุโมงค์" โดยมีบริษัทยามากถึง 10 แห่งกำลังทำการทดลองยาที่ใช้ในการรักษาโรคโควิด-19 ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การวิจัยเพื่อพัฒนายาและวัคซีนที่ใช้ต้านโควิด-19 กำลังมีความคืบหน้าอย่างมาก
นายเกรแฮม เทอร์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Flight Centre ซึ่งเป็นบริษัทท่องเที่ยวใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย กล่าวว่า การเดินทางภายในประเทศในอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะกลับสู่ภาวะปกติในเดือนมิ.ย. หากความพยายามในการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ดี นายเทอร์เนอร์คาดว่า การเดินทางระหว่างประเทศจะยังคงถูกระงับต่อไปอีก 6 เดือน