ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 500 จุด หลังโควิด-19 ทุบผลประกอบการแบงก์,ยอดค้าปลีก

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 15, 2020 20:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 500 จุดในวันนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และยอดค้าปลีกสหรัฐ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ณ เวลา 20.44 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 23,388.40 จุด ลบ 561.36 จุด หรือ 2.34%

หุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงานร่วงลงนำตลาด

หุ้นโกลด์แมน แซคส์, ซิตี้กรุ๊ป และแบงก์ ออฟ อเมริกาทรุดตัวลง 4-5% ในวันนี้ หลังรายงานตัวเลขกำไรดิ่งลงในไตรมาส 1 อันเนื่องจากผลกระทบของโควิด-19

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงเกือบ 2% หลุดระดับ 20 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยนักลงทุนกังวลภาวะน้ำมันล้นตลาด ขณะที่อุปสงค์ทรุดตัวลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันก่อนหน้านี้

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกทรุดตัวลง 8.7% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการดิ่งลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลเริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวตั้งแต่ปี 2535 และย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 8.0% หลังจากลดลง 0.4% ในเดือนก.พ.

ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการปิดร้านค้า ขณะที่ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน และลดการใช้จ่าย รวมทั้งลดการเดินทาง ซึ่งทำให้ยอดขายของสถานีบริการน้ำมันดิ่งลง

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ดิ่งลงแตะระดับ -78.2 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -32.5 นอกจากนี้ ดัชนีภาคการผลิตยังปรับตัวต่ำกว่าระดับ -34.3 ที่ทำไว้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน ในบรรดาบริษัทที่ได้รับการสำรวจ มีเพียง 7% ที่รายงานว่าภาวะธุรกิจดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ขณะที่ 85% รายงานภาวะธุรกิจย่ำแย่ลง ดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก ทั้งนี้ ภาคธุรกิจในนิวยอร์กต่างก็ได้รับผลกระทบจากการที่นิวยอร์กเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงสุดในประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ