ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวกเพียง 39.44 จุด ตลาดถูกกดดันจากข่าวยา remdesivir ไม่มีประสิทธิภาพรักษาโควิด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 24, 2020 06:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความหวังที่ว่าสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะผ่านมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ขยับขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากตลาดถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า ยา remdesivir ของบริษัท Gilead Sciences ไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,515.26 จุด เพิ่มขึ้น 39.44 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,797.80 จุด ลดลง 1.51 จุด หรือ -0.05% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,494.75 จุด ลดลง 0.63 จุด หรือ -0.01%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนเมื่อคืนนี้ โดยในช่วงแรก ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีพุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกือบ 20% รวมทั้งความหวังที่ว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยมาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ลดช่วงบวกในเวลาต่อมา ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวลงสู่แดนลบ หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ผลการใช้ยา remdesivir ซึ่งเป็นยาแอนตี้ไวรัสของบริษัท Gilead Sciences ในการทดสอบทางคลินิกที่จีน พบว่า ยาดังกล่าวไม่สามารถเร่งอัตราการฟื้นตัวของผู้ป่วยโรคโควิด-19 รวมทั้งไม่สามารถป้องกันผู้ป่วยจากการเสียชีวิต

ทั้งนี้ WHO รายงานผลดังกล่าวบนเว็บไซต์ ก่อนที่จะลบออกในเวลาต่อมา

หุ้น Gilead Sciences ร่วงลง 4.34% เนื่องจากข่าวดังกล่าว ขณะที่หุ้นบางตัวในกลุ่มเวชภัณฑ์และธุรกิจสุขภาพปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ร่วงลง 1.6% หุ้นเมดโทรนิค ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ ปรับตัวลง 0.2%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ WTI โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.79% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดีดขึ้น 8.38% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น ทะยานขึ้น 34.03% หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ บวก 4.4% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 6.4%

หุ้นโดมิโน พิซซา ร่วงลง 3.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1 แม้ว่ารายได้และกำไรจะออกมาสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ก็ตาม

หุ้นเฮอร์ชีย์ ดิ่งลง 4.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาด

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.4 ล้านราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.3 ล้านราย โดยการพุ่งขึ้นของตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานมีสาเหตุจากการที่ภาคธุรกิจได้พากันปิดกิจการ จากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ดิ่งลง 15.4% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2556 สู่ระดับ 627,000 ยูนิต และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 645,000 ยูนิต หลังจากแตะระดับ 741,000 ยูนิตในเดือนก.พ.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ