ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับสัญญาณการฟื้นตัวของภาคการผลิตในยูโรโซน ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.10% ปิดที่ 354.20 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,762.78 จุด เพิ่มขึ้น 67.35 จุด หรือ +1.43% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,166.42 จุด เพิ่มขึ้น 89.82 จุด หรือ +1.48%
ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดทำการวานนี้ (1 มิ.ย.) เนื่องในวัน Whit Monday
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 39.4 ในเดือนพ.ค. โดยลดลงเล็กน้อยจากระดับเบื้องต้นที่ 39.5 แต่เพิ่มขึ้นจากระดับ 33.4 เมื่อเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. แต่การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง ขณะที่ตลาดหุ้นเยอรมนี, สวิตเซอร์แลนด์, เดนมาร์ก และนอร์เวย์ ปิดทำการเนื่องในวันหยุด
หุ้นที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจดีดตัวขึ้น อาทิ หุ้นกลุ่มการเดินทางและสันทนาการ, กลุ่มธนาคาร, กลุ่มเหมืองแร่ รวมถึงกลุ่มน้ำมันและก๊าซ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นในการประชุมในวันพฤหัสบดีนี้
หุ้นเรโนลต์ของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 6.19% ขณะที่หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดของอังกฤษ พุ่งขึ้น 8.66%