ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.44% ปิดที่ 359.89 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,945.46 จุด เพิ่มขึ้น 35.83 จุด หรือ +0.73%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,232.12 จุด เพิ่มขึ้น 142.73 จุด หรือ +1.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,225.77 จุด เพิ่มขึ้น 66.47 จุด หรือ +1.08%
หุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้น หลังรายงานข่าวเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ช่วยให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้ว่ายังคงมีความวิตกเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นจากโรคโควิด-19 ก็ตาม
ตลาดได้แรงหนุนจากการที่ยูโรโซนเองประสบความสำเร็จในการเปิดเศรษฐกิจหลังล็อกดาวน์ และจากการที่สหภาพยุโรป (EU) เสนอจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.50 แสนล้านยูโร (8.42 แสนล้านดอลลาร์)
หุ้นกลุ่มธนาคารของยูโรโซนปรับตัวขึ้นมากที่สุด หลังข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซนฟื้นตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.
หุ้นอื่นๆ ที่ปรับตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ดีดตัวขึ้นด้วย อาทิ กลุ่มน้ำมันและก๊าซ, กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรม และกลุ่มรถยนต์
หุ้นเรโนลต์ พุ่ง 5.25%, หุ้นโซซิเอเต เจเนอราล พุ่ง 2.97%, หุ้นไวร์คาร์ด พุ่ง 154.49%, หุ้นดอยซ์แบงก์ พุ่ง 3.65%, หุ้นเชลล์ บวก 1.52% และหุ้นบีพี พุ่ง 3.38%