ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของประเทศต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นจีนได้ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อหุ้นด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.58% ปิดที่ 371.21 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,081.51 จุด เพิ่มขึ้น 74.38 จุด หรือ +1.49%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,733.45 จุด เพิ่มขึ้น 205.27 จุด หรือ +1.64% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,285.94 จุด เพิ่มขึ้น 128.64 จุด หรือ +2.09%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส และการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นจีนจากความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19
ตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า ยอดค้าปลีกของยูโรโซนดีดตัวขึ้นในเดือนพ.ค.หลังร่วงลงจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัวในเดือนมิ.ย.
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจพบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 45.4 ในเดือนพ.ค. โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่หลายรัฐเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่ต้องล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจสหรัฐได้กลับเข้าสู่ภาวะขยายตัวแล้ว หลังจากที่ร่วงลงไปแตะระดับ 41.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย. จะอยู่ที่ 48.9
นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นทั่วโลก หลังจากตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นมากกว่า 5% เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นจีน โดยคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ หากได้รับผลกระทบจากโรคโควิดระบาดรอบสอง
นอกจากนี้ ความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ได้ช่วยหนุนตลาดด้วย
หุ้นธนาคารเอชเอสบีซีซึ่งโฟกัสการทำธุรกิจในเอเชีย พุ่ง 6.56% และหุ้นกลุ่มอื่นๆ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับจีน อาทิ กลุ่มรถยนต์, อุตสาหกรรม, พลังงาน และสินค้าหรูหรา ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
หุ้นดอยซ์แบงก์และหุ้นคอนติเนนทัลที่ตลาดหุ้นเยอรมนี พุ่ง 3.82% และ 2.92% ตามลำดับ, หุ้นเรโนลต์ และหุ้นอาร์เซลอร์มิตตัลที่ตลาดหุ้นฝรั่งเศส พุ่ง 4.40 และ 3.98% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นโรลส์-รอยซ์ ที่ตลาดหุ้นอังกฤษ พุ่ง 6.72%