หุ้น "เอชเอสบีซี" ร่วงกว่า 3% จากข่าวสหรัฐเล็งเลิกผูกติดดอลลาร์ฮ่องกง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 8, 2020 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ร่วงลงมากถึง 3.1% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงช่วงเช้านี้ ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนีฮั่งเส็งร่วงด้วย เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลกับรายงานข่าวที่ว่า ที่ปรึกษาระดับสูงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้เสนอให้รัฐบาลสหรัฐยกเลิกการผูกติดค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐ

สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ข้อเสนอให้ยุติการผูกติดค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงและดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจดำเนินการโดยการจำกัดความสามารถของธนาคารในฮ่องกงในการซื้อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น ได้ถูกหยิบยกขึ้นมาในระหว่างการอภิปรายของบรรดาที่ปรึกษาของนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ

ทางด้านนายเซียะ ลี นักวิเคราะห์ฝ่ายกิจการเอเชียของ BBVA Hong Kong กล่าวว่า ข้อเสนอให้ยุติการผูกติดค่าเงินเป็นเหมือน "อาวุธร้ายแรงระดับนิวเคลียร์" และหากสหรัฐตัดสินใจทำเรื่องดังกล่าว ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐขาดสะบั้นลงอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งจะทำให้สหรัฐได้รับผลกระทบอย่างมากด้วย

ทั้งนี้ เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ซึ่งต้องพึ่งพารายได้จากฮ่องกงในสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 นั้น กำลังก้าวเข้าสู่สมรภูมิการเมืองอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากนายปีเตอร์ หว่อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกิจการเอเชียแปซิฟิกของเอชเอสบีซี ได้ลงนามในหนังสือสนับสนุนกฎหมายความมั่นคงที่จีนบังคับใช้ในฮ่องกง โดยระบุว่า เอชเอสบีซีเคารพและสนับสนุนกฎหมายทุกฉบับที่จะนำไปสู่ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมฮ่องกง

การที่ผู้บริหารของเอชเอสบีซีได้ออกมาสนับสนุนกฎหมายความมั่นคงในฮ่องกงนั้น ทำให้นักการเมืองในอังกฤษออกมาวิพากษ์วิจารณ์ โดยนายจาคอป รีส์-ม็อกก์ ผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยมในรัฐสภาอังกฤษ กล่าวว่า ธนาคารเอชเอสบีซีซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในลอนดอนนั้น อาจมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลจีนมากกว่ารัฐบาลของสมเด็จพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ