ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวแคบในวันนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้
ณ เวลา 20.01 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 9 จุด หรือ 0.03% สู่ระดับ 25,779 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดร่วงลงเกือบ 400 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวันจันทร์ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนไม่มั่นใจต่อมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งการแสดงความเห็นในเชิงลบจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นายมาร์ค ชอร์ท ผู้ช่วยของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการให้สภาคองเกรสจำกัดวงเงินในมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่เอาไว้ที่ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือน้อยกว่านั้น
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวได้ส่งสัญญาณควบคุมวงเงินในมาตรการเยียวยาผลกระทบโควิด-19 แม้จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 3 ล้านรายแล้ว ขณะที่รัฐแอริโซนา แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และรัฐอื่นๆของสหรัฐต่างก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในโรงพยาบาลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการแสดงความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด โดยนางแมรี ดาลีย์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก และนายโธมัส บาร์กิน ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ต่างก็มีความเห็นในทางเดียวกันว่า แม้อัตราว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 11.1% ในเดือนมิ.ย. แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมาก และเฟดยังคงต้องดำเนินการเพื่อให้อัตราว่างงานลดลงอีก ขณะที่นายราฟาเอล บอสติค ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา เตือนว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ
นักลงทุนยังคงจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนมิ.ย.