ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นเกือบ 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการ และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐ
ณ เวลา 20.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 74 จุด หรือ 0.28% สู่ระดับ 26,396 จุด
ขณะนี้ บริษัทในดัชนี S&P 500 จำนวน 128 บริษัทได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว โดยจำนวน 81% มีผลประกอบการสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
ราคาทองพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ราคาทองสปอตดีดตัวแตะ 1,943.92 ดอลลาร์ในวันนี้ สูงกว่าสถิติเดิมที่ทำไว้ในเดือนก.ย.2554
สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) และบริษัท Moderna ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ เปิดตัวโครงการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในมนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลกในวันนี้ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการถึง 30,000 คน
ท้งนี้ วัคซีนดังกล่าวได้รับการพัฒนาโดย NIH และ Moderna โดยอาสาสมัครจะไม่ทราบว่าตนเองได้รับวัคซีนจริงหรือวัคซีนหลอก และหลังจากได้รับวัคซีนจำนวน 2 โดส นักวิทยาศาสตร์ก็จะติดตามดูว่าอาสาสมัครกลุ่มใดที่มีอาการติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น ขณะที่พวกเขาดำเนินชีวิตไปตามปกติ โดยเฉพาะในเขตที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส
นอกจากนี้ เครือข่ายป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (CPN) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ จะเปิดตัวโครงการทดสอบวัคซีนตัวใหม่ทุกเดือนจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยทุกโครงการจะมีอาสาสมัครรายใหม่จำนวน 30,000 คน และในที่สุด นักวิทยาศาสตร์จะทำการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละตัวที่มีการทดสอบ
หากดูตามตารางในขณะนี้ จะมีการทดสอบวัคซีนของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในเดือนส.ค. ขณะที่วัคซีนจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะมีการทดสอบในเดือนก.ย. ส่วนในเดือนต.ค.จะมีการทดสอบวัคซีนของบริษัท Novavax ขณะที่บริษัทไฟเซอร์เตรียมทดสอบวัคซีนในช่วงฤดูร้อนนี้
ตามปกติแล้วจะต้องใช้เวลาหลายปีในการผลิตวัคซีนตัวใหม่ อย่างไรก็ดี สำหรับการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 บรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างก็ได้เร่งผลิตวัคซีนอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ได้รับข้อมูลด้านพันธุกรรมของไวรัสดังกล่าวจากจีนในเดือนม.ค. ขณะที่ทางสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ก็ได้ผ่อนคลายกฎระเบียบแก่บางบริษัท เพื่อให้การพัฒนาวัคซีนเป็นไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ โดยคาดว่าจะมีวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากโครงการช่วยเหลือคนว่างงานจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต้นปีนี้ เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี มาตรการจ่ายเงิน 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์สำหรับผู้ว่างงานจะสิ้นสุดลงในเดือนนี้ ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลจะขยายมาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ว่างงานต่อไป แต่ในวงเงินที่ลดลงเหลือเพียง 100 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์