ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นเพื่อจำกัดความเสียหายจากผลกระทบของโรคโควิด-19 และนักลงทุนรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ ซึ่งคาดว่าผู้กำหนดนโยบายของเฟดจะยังคงแสดงท่าทีในการสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.42% ปิดที่ 367.68 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,129.26 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด หรือ +0.40% ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,835.28 จุด ลดลง 3.38 จุด หรือ -0.03% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,928.94 จุด ลดลง 10.68 จุด หรือ -0.22%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่า สหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ในไม่ช้านี้ ก่อนที่โครงการช่วยเหลือคนว่างงานจำนวน 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้
นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากการทำข้อตกลงของสหภาพยุโรป (EU) ที่จะออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนในการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19 และความหวังเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านโรคดังกล่าว
บรรดานักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย อาทิ กลุ่มเฮลธ์แคร์, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และกลุ่มสาธารณูปโภค
หุ้นกลุ่มการเดินทางฟื้นตัวขึ้น หลังร่วงลงเมื่อวันจันทร์จากความวิตกเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของยอดติดเชื้อโควิด-19 ในยุโรป
หุ้นพีเอสเอ กรุ๊ป ซึ่งผลิตรถเปอโยต์ พุ่ง 2.4% หลังคงเป้าหมายผลกำไรในปีนี้ แม้ความสามารถในการทำกำไรลดลงในช่วงครึ่งปีแรก
หุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านของอังกฤษพุ่งขึ้น หลังรายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังร่างแผนการขยายโครงการช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านครั้งแรก