ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) โดยถูกกดดันจากการเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในยุโรป และนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.07% ปิดที่ 363.39 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,600.87 จุด ลดลง 46.11 จุด หรือ -0.36% ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,889.52 จุด เพิ่มขึ้น 13.59 จุด หรือ +0.28% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,036.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด หรือ +0.05%
ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันจากการที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของยุโรปเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ อาทิ บริษัทบีพีของอังกฤษรายงานผลขาดทุนไตรมาส 2 ที่ 6.7 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นบีพีปิดตลาดพุ่งขึ้น 3.36%
บริษัทดิอาจิโอของอังกฤษ ร่วง 4.89% หลังรายงานยอดขายครึ่งปีแรกลดลงเกินคาด 8.4%
หุ้นไบเออร์ของเยอรมนี ร่วง 2.43% หลังเปิดเผยผลขาดทุนสุทธิ 9.5 พันล้านยูโรในไตรมาส 2/2563 ซึ่งเป็นผลจากการฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กำจัดวัชพืชราวด์อัพของบริษัท
นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อหุ้นเพื่อรอการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตของสหรัฐในการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 รอบใหม่
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนที่เกี่ยวกับบริษัทเทคโนโลยีของจีนในสหรัฐ อาทิ การที่สหรัฐเตรียมสั่งแบนแอปพลิเคชัน TikTok ของจีน ขณะที่บริษัทไมโครซอฟท์กำลังเจรจาเพื่อซื้อกิจการของ TikTok ในสหรัฐ