ดาวโจนส์เปิดแดนบวก นักลงทุนจับตาผลประชุมเฟด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 16, 2020 20:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์เปิดแดนบวก ก่อนการประกาศผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของเฟดก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.

ณ เวลา 20.34 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,041.13 จุด บวก 45.53 จุด หรือ 0.16%

ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเฟดเอ็กซ์ คอร์ป

อย่างไรก็ดี ดัชนีถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐที่ต่ำกว่าคาดในเดือนส.ค.

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.1% หลังจากทะยานขึ้น 1.2% ในเดือนก.ค.

นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 0.1% ในเดือนส.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่า ยอดค้าปลีกพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.5%

นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ รวมทั้งตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจประจำไตรมาสของเฟดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP), อัตราว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ

นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันนี้ และเฟดจะให้รายละเอียดมากขึ้นเกี่ยวกับ "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ได้กล่าวถึงในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญ

ทั้งนี้ นายพาวเวลระบุว่า เฟดจะเปลี่ยนแปลงแนวทางในการกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อ โดยจะเปิดทางให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้นมากกว่าเดิมเพื่อสนับสนุนตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐ

นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดจะใช้เครื่องมือใหม่ที่เรียกว่า "เป้าหมายเงินเฟ้อเฉลี่ย" ซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อมีความยืดหยุ่น และสามารถดีดตัวขึ้นเหนือ 2% แทนที่จะกำหนดเป้าหมายตายตัวที่ 2%

การประกาศปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินดังกล่าว ส่งผลให้เฟดมีแนวโน้มน้อยลงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราว่างงานลดลง ตราบใดที่อัตราเงินเฟ้อไม่ได้ดีดตัวขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ เฟดมีความเชื่อว่าอัตราว่างงานต่ำจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นจนถึงขีดอันตราย ทำให้เฟดดำเนินการล่วงหน้าด้วยการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่อาจก่อตัวขึ้น

ผลการสำรวจของสำนักข่าว CNBC พบว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2566


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ