ดาวโจนส์พุ่งไม่หยุด ล่าสุดทะยานกว่า 200 จุด เก็ง "ไบเดน" ชนะเลือกตั้งปธน.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 9, 2020 22:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ในวันนี้ ขณะที่ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งกว่า 200 จุด ขานรับความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งแนวโน้มที่นายโจ ไบเดน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งจะทำให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐครั้งใหญ่

ณ เวลา 22.48 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 28,628.04 จุด บวก 202.53 จุด หรือ 0.71%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 122.05 จุด หรือ 0.43% เมื่อวานนี้ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. ขณะที่ดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 3% ในสัปดาห์นี้ โดยปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน และมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนส.ค.

หุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญพุ่งขึ้นในวันนี้ หลัวจากที่ทำเนียบขาวแถลงว่า นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ จะพบปะกับตัวแทนจากธุรกิจเรือสำราญในวันนี้

ผลการสำรวจของทุกสำนักโพลล์ต่างระบุว่า นายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐในวงเงินที่สูงกว่า เมื่อเทียบกับกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง

ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ทำเนียบขาว ซึ่งมาจากพรรครีพับลิกัน เสนอวงเงินเพียง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้หารือกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยนางเพโลซีต้องการให้ทำเนียบขาวออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับรวม ซึ่งครอบคลุมถึงการช่วยเหลือประชาชนและทุกภาคธุรกิจ รวมทั้งช่วยเหลือรัฐบาลในมลรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่ใช่เป็นการออกมาตรการเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมใดเป็นการเฉพาะ

ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาจะลงนามในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยแยกออกเป็นฉบับย่อยหลายฉบับ เพื่อเยียวยาประชาชนและบางภาคธุรกิจเท่านั้น ขณะที่เขาไม่เห็นด้วยที่จะให้เงินสนับสนุนมลรัฐต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งเขาอ้างว่ามีการบริหารงานที่ล้มเหลว

ปธน.ทรัมป์เรียกร้องให้สภาคองเกรสให้การอนุมัติมาตรการต่างๆที่เขาจะลงนาม ซึ่งได้แก่ การแจกเช็คเงินสดให้แก่ชาวอเมริกันคนละ 1,200 ดอลลาร์ รวมทั้งการอัดฉีดวงเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมการบิน และวงเงิน 1.35 แสนล้านดอลลาร์สำหรับธุรกิจรายย่อย

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนก.ค.

เมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งดิ่งลง 5.2% ในเดือนส.ค.

ส่วนยอดขายในภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.0% หลังจากพุ่งขึ้น 4.8% ในเดือนก.ค.

นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.31 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก ลดลงจากระดับ 1.32 เดือนเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ