ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ต.ค.) และบวกขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในสหรัฐ รวมถึงการคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการในเชิงบวกจากบริษัทยุโรป
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.55% ปิดที่ 370.35 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,946.81 จุด เพิ่มขึ้น 34.87 จุด หรือ +0.71%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,051.23 จุด เพิ่มขึ้น 9.02 จุด หรือ +0.07% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,016.65 จุด เพิ่มขึ้น 38.62 จุด หรือ +0.65%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าพรรคเดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้ และจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ตามมา
ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากกระแสข่าวการควบรวมกิจการในยุโรป และการดีดตัวขึ้นของราคาหุ้นที่ร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา อาทิ กลุ่มการเดินทางและสันทนาการ, กลุ่มธนาคาร และกลุ่มน้ำมันและก๊าซ
หุ้นโรลส์-รอยซ์ของอังกฤษ พุ่ง 14.26% ขณะที่หุ้น IAG เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์ พุ่งขึ้น 13.2%
หุ้นแพนโดรา บริษัทผลิตเครื่องประดับ พุ่ง 17.2% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไร เนื่องจากยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ บริษัทผลิตเวชภัณฑ์ พุ่ง 3.3% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายของปีนี้
หุ้นซาแลนโด บริษัทขายสินค้าแฟชั่นออนไลน์ พุ่ง 3.2% และหุ้นโกลบอล แฟชั่น กรุ๊ป พุ่ง 24.0% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการ