ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวกกว่า 100 จุด ส่งสัญญาณวอลล์สตรีทพุ่งต่อวันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 10, 2020 18:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวกว่า 100 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในคืนนี้ ต่อเนื่องจากที่พุ่งขึ้นวานนี้

ณ เวลา 18.29 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 168 จุด หรือ 0.58% สู่ระดับ 29,216 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุดเมื่อคืนนี้ ทำสถิติปรับตัวขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. หลังจากไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทยารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech บริษัทยาของเยอรมนี แถลงความคืบหน้าครั้งใหญ่ในการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19

ข่าวความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนดังกล่าว ส่งผลให้หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจ เช่น สายการบิน ค้าปลีก และธุรกิจเรือสำราญ ต่างปรับตัวขึ้นวานนี้ แต่หุ้น Zoom Video Communications รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องทำงานที่บ้านในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่างดิ่งลงตามกัน

ทั้งนี้ ไฟเซอร์และ BioNTech แถลงวานนี้ว่า ผลการทดลองบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ซึ่งทั้งสองบริษัทพัฒนาร่วมกัน มีประสิทธิภาพมากกว่า 90% ในการป้องกันไวรัสสำหรับผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน และบริษัทจะยื่นจดทะเบียนวัคซีนต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะมีการผลิตวัคซีน 50 ล้านโดสภายในปีนี้ และ 1,300 ล้านโดสในปีหน้า

นอกจากนี้ การที่นายโจ ไบเดน ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ โดยนายไบเดนให้คำมั่นว่าเขาจะทำให้การถ่ายโอนอำนาจเป็นไปอย่างราบรื่น และจะผลักดันมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งมาตรการสำคัญอื่นๆ

ส่วนผลการเลือกตั้งในสภาคองเกรสนั้น ล่าสุด พรรคเดโมแครตมีแนวโน้มที่จะยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในขณะที่การแข่งขันในวุฒิสภายังคงมีความไม่แน่นอน โดยมีแนวโน้มว่าการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกในรัฐจอร์เจียอาจจะต้องตัดสินด้วยการลงคะแนนเสียงรอบสองในเดือนม.ค.

หากนายไบเดนคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ และพรรคเดโมแครตสามารถครองเสียงข้างมากอย่างเบ็ดเสร็จในสภาคองเกรสทั้งในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ก็จะทำให้การขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากที่ถูกขัดขวางในสมัยของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

แต่ถ้าหากพรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ก็จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นเช่นกัน โดยจะทำให้นโยบายการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของนายไบเดนอาจไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ทำให้บริษัทจดทะเบียนยังคงได้รับประโยชน์จากนโยบายลดอัตราภาษีของรัฐบาลทรัมป์ต่อไป

นอกจากนี้ การถ่วงดุลอำนาจดังกล่าว จะช่วยลดโอกาสที่รัฐบาลของนายไบเดนจะทำการออกมาตรการควบคุมกฎระเบียบสถาบันการเงิน และบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ