ดาวโจนส์เปิดแดนลบ ผิดหวังยอดค้าปลีกซบเซา

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 16, 2020 22:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขยอดค้าปลีกที่ซบเซา

ณ เวลา 21.47 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 30,182.07 จุด ลบ 17.24 จุด หรือ 0.06%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนต.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกลดลงเพียง 0.3% ในเดือนพ.ย.

การชะลอตัวของยอดค้าปลีกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการที่ภาคครัวเรือนมีรายได้ลดลง เนื่องจากชาวอเมริกันจำนวนมากประสบภาวะตกงาน

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ลดลง 0.5% ในเดือนพ.ย. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนต.ค.

นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างแกนนำในสภาคองเกรสประสบความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลอันเนื่องจากการขาดแคลนงบประมาณ (ชัตดาวน์)

"เรามีความคืบหน้าครั้งสำคัญ และผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงในไม่ช้า" นายแมคคอนเนลล์กล่าว

ทั้งนี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เชิญแกนนำในสภาคองเกรสเข้าประชุมวานนี้ เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงในประเด็นดังกล่าว โดยแกนนำที่นางเพโลซีเชิญเข้าประชุม ได้แก่ นายแมคคอนเนลล์, นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา และนายเควิน แมคคาร์ธี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร

นอกจากนี้ ในระหว่างการประชุมดังกล่าว นางเพโลซียังได้ต่อสายสนทนาทางโทรศัพท์กับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ

หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ก็จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลเผชิญภาวะชัตดาวน์ในวันที่ 19 ธ.ค. และชาวอเมริกันที่ตกงานจะไม่ได้รับเงินชดเชยจากสวัสดิการว่างงานในวันที่ 26 ธ.ค.

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากปัจจุบันที่ระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ขณะที่เฟดซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดการเงิน

ทางด้านสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ออกรายงานระบุว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และโมเดอร์นา อาจมีอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell?s palsy)

รายงานเปิดเผยว่า อาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ 4 รายมีอาการ Bell?s palsy จากจำนวนทั้งหมด 43,000 ราย ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนของโมเดอร์นามีอาการ 4 รายเช่นกัน จากจำนวนทั้งหมด 30,000 ราย โดยจะมีอาการเกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนราว 22-32 วัน

อย่างไรก็ดี FDA ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะระบุว่าอาการดังกล่าวเป็นผลโดยตรงจากการฉีดวัคซีน แต่ FDA แนะนำให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนควรเฝ้าระวังอาการดังกล่าว

ขณะนี้แพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเกิด Bell?s palsy แต่เชื่อกันว่า เกิดจากอาการบวม หรือการติดเชื้อไวรัสของเส้นประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อซีกหนึ่งบนใบหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ