ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัว หุ้นเหมืองแร่ทะยานก่อนเปิดตลาด ขานรับโลหะเงินพุ่ง

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวขึ้นในคืนนี้ ขณะที่ราคาหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด ขานรับราคาโลหะเงินที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี

ณ เวลา 19.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 241 จุด หรือ 0.81% สู่ระดับ 30,120 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดในสัปดาห์ที่แล้วนับตั้งแต่เดือนต.ค.2563 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) รวมทั้งการที่นักลงทุนรายย่อยในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพากันถล่มกองทุนเฮดจ์ฟันด์ จนทำให้ประสบภาวะขาดทุนจำนวนมาก

ทั้งนี้ J&J เปิดเผยว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพ 72% ในการป้องกันไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ แต่มีประสิทธิภาพลดน้อยลงในภูมิภาคอื่น นอกจากนี้ ผลการทดลองยังบ่งชี้ว่าวัคซีนของ J&J ไม่สามารถป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์แอฟริกาใต้

นักลงทุนรายย่อยในห้อง WallStreetBets ซึ่งมีสมาชิกกว่า 7.6 ล้านรายบนเว็บบอร์ด Reddit ได้เล็งเป้าหมายที่จะผลักดันราคาหุ้น GameStop ให้สูงขึ้นเพื่อกดดันให้เฮดจ์ฟันด์ต้องกลับเข้าซื้อคืนหุ้นดังกล่าวเพื่อตัดขาดทุน หลังจากที่ได้ขายชอร์ตก่อนหน้านี้ โดยเก็งว่า GameStop จะต้องปิดกิจการในไม่ช้า

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาหุ้น GameStop พุ่งขึ้นถึง 1,700% ตั้งแต่ต้นปีนี้ ส่งผลให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ประสบภาวะขาดทุนอย่างหนัก โดยคาดว่าสูงถึง 19,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 570,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี กลุ่มนักลงทุนรายย่อยดังกล่าวได้เล็งเป้าหมายใหม่เป็นโลหะเงินในวันนี้ โดยผลักดันให้ราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทะยานขึ้นเหนือระดับ 30 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี โดยหวังว่าเฮดจ์ฟันด์จะประสบภาวะขาดทุนเช่นเดียวกับการเก็งกำไรในหุ้น GameStop

การพุ่งขึ้นของราคาโลหะเงินในวันนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นและกองทุนที่เกี่ยวข้องกับโลหะเงิน รวมทั้งหุ้นในกลุ่มเหมืองแร่ก็ได้ทะยานขึ้นเช่นกัน

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของ ISM โดยคาดว่าจะปรับตัวลงในเดือนม.ค. หลังจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในเดือนธ.ค.