ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวกว่า 100 จุดในวันนี้ ก่อนการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ
ณ เวลา 19.04 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 151 จุด หรือ 0.49% สู่ระดับ 31,101 จุด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 300 จุดวานนี้ ขานรับตัวเลขแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันนับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ โดยได้พุ่งขึ้น 3.6% ในสัปดาห์นี้ ทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 779,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ย.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 830,000 ราย จากระดับ 812,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
นักลงทุนมองว่า ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ
ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากทรุดตัวลงในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 6.7% ในเดือนม.ค.
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลง 140,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 50,000 ตำแหน่ง โดยได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลให้มีการปลดพนักงานจำนวนมาก ท่ามกลางการแพร่ระบาดครั้งใหม่ของไวรัสโควิด-19
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่มีการรายงานผลประกอบการในไตรมาส 4/63 แล้ว มีจำนวน 84.2% ที่รายงานตัวเลขรายได้และกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้