ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มรถยนต์ยุโรปที่พุ่งขึ้นสูงที่สุดในรอบกว่า 2 ปี รวมถึงหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันอังคารและพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้มุมมองของเฟดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 426.82 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด หรือ +0.88%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,055.43 จุด เพิ่มขึ้น 19.46 จุด หรือ +0.32%, ดัชนี DAX ปิดที่ 14,557.58 จุด เพิ่มขึ้น 96.16 จุด หรือ +0.66% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,803.61 จุด เพิ่มขึ้น 53.91 จุด หรือ +0.80%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้ในปีที่แล้ว ขณะที่กลุ่มรถยนต์ทะยานขึ้น 2.1% สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2561 โดยหุ้นโฟล์คสวาเกน พุ่งขึ้น 6.7% หลังบริษัทแสดงความเชื่อมั่นว่า การปรับลดต้นทุนจะช่วยให้ผลกำไรของบริษัทดีขึ้นในไม่กี่ปีข้างหน้านี้
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นซาแลนโด พุ่งขึ้น 5.0% เนื่องจากบริษัทคาดการณ์รายได้ในปีนี้สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในยุโรปด้วย โดยเงินเฟ้อของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นตามคาดในเดือนก.พ. ขณะที่สถาบันวิจัยทางเศรษฐกิจ ZEW บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนมี.ค. โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี
บรรดานักลงทุนยังคงมุ่งความสนใจไปที่การประชุมเฟด 2 วันในวันที่ 16-17 มี.ค.นี้ เนื่องจากวิตกว่าการปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา อาจกระตุ้นให้เฟดคุมเข้มนโยบายการเงินเร็วกว่าคาด