ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และยังคงจับตาการปรับตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร แต่ตลาดหุ้นยุโรปยังคงสามารถปิดตลาดได้อย่างแข็งแกร่งในเดือนมี.ค.และในไตรมาสแรกของปีนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 429.60 จุด ลดลง 1.05 จุด หรือ -0.24%
ดัชนี CAC 40 ปิดที่ 6,067.23 จุด ลดลง 20.81 จุด หรือ -0.34%, ดัชนี DAX ปิดที่ 15,008.34 จุด ลดลง 0.27 จุด หรือ -0.00% และดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,713.63 จุด ลดลง 58.49 จุด หรือ -0.86%
ตลาดหุ้นยุโรปรับตัวลงเล็กน้อยในวันพุธหลังจากบวกขึ้น 3 วันติดต่อกัน แต่ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดเดือนมี.ค.บวก 6.5% และปิดตลาดไตรมาสแรก เพิ่มขึ้น 8%
ตลาดถูกกดดันจากหุ้น Deliveroo ซึ่งร่วงลง 30% ในการซื้อขายวันแรกที่ตลาดหุ้นลอนดอน
หุ้นกลุ่มธุรกิจส่งอาหารปรับตัวลงตามหุ้น Deliveroo ที่เปิดเทรดวันแรก ร่วงลงแตะ 271 เพนซ์ ต่ำกว่าราคา IPO ที่ 390 เพนซ์ในตลาดลอนดอน
นอกจากนี้ การร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร และการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในยูโรโซนถ่วงตลาดลงด้วย โดย Eurostat เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของยูโรโซน พุ่งขึ้นสู่ระดับ 1.3% ในเดือนมี.ค. จาก 0.9% ในเดือนก.พ.
หุ้นเครดิตสวิสปรับตัวลงต่อเป็นวันที่ 3 โดยร่วงลงอีก 4.9% จากความวิตกเกี่ยวกับการขาดทุนที่เกิดจากการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัท Archegos Capital
หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ลดลง 0.6% หลังเยอรมนีเปิดเผยว่าจะจำกัดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าให้กับประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 60 ปี หลังพบอาการลิ่มเลือดอุดตันรายใหม่ในผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนดังกล่าว
หุ้น H&M ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องแต่งกายของสวีเดน ร่วงลง 3.3% หลังรายงานยอดขาดทุนรายไตรมาส และเปิดเผยว่าจะไม่เสนอจ่ายเงินปันผลในการประชุมประจำปี