ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันแล้ว เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังสหรัฐและจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 442.49 จุด เพิ่มขึ้น 3.94 จุด หรือ +0.90%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,287.07 จุด เพิ่มขึ้น 52.93 จุด หรือ +0.85%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,459.75 จุด เพิ่มขึ้น 204.42 จุด หรือ +1.34% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,019.53 จุด เพิ่มขึ้น 36.03 จุด หรือ +0.52%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังจีนเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นอย่างมากในไตรมาสแรกของปีนี้ และสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค.มากที่สุดในรอบ 10 เดือน
ตลาดหุ้นยุโรปยังปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี โดยตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในยุโรปฟื้นตัวขึ้นใกล้ระดับก่อนเกิดโรคระบาด โดยได้แรงหนุนจากการที่บรรดานักวิเคราะห์คาดว่า ผลกำไรของบริษัทในดัชนี STOXX 600 จะพุ่งขึ้นมากกว่า 55% ในไตรมาสแรก หลังจากร่วงลงเกือบ 40% ในไตรมาสแรกของปีที่แล้ว
หุ้นกลุ่มรถยนต์ได้แรงหนุนจากการที่บริษัทเดมเลอร์ของเยอรมนีเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส โดยหุ้นเดมเลอร์ พุ่งขึ้น 2.7% หลังเปิดเผยผลกำไรไตรมาสแรกพุ่งขึ้นเกินคาด
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ยังนำตลาดปรับตัวขึ้น หลังจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในสหภาพยุโรป พุ่งขึ้น 87.3% ในเดือนมี.ค.
บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีหน้า