ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 321.41 จุด วิตกข่าวไบเดนจ่อขึ้นภาษีเกือบสองเท่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday April 23, 2021 06:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลกับรายงานข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐมีแผนที่จะปรับขึ้นภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุนเพิ่มอีกเกือบสองเท่า โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดแรงเทขายในหุ้นทุกลุ่ม และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐด้วย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,815.90 จุด ลดลง 321.41 จุด หรือ -0.94% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,134.98 จุด ลดลง 38.44 จุด หรือ -0.92% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,818.41 จุด ลดลง 131.81 จุด หรือ -0.94%

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ปธน.ไบเดนจะเสนอให้มีการปรับขึ้นอัตราภาษีส่วนเพิ่ม (marginal income tax rate) จาก 37% เป็น 39.6% และปรับขึ้นภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุน (capital gains tax) เพิ่มอีกเกือบ 2 เท่า จาก 20% เป็น 39.6% สำหรับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี

นักวิเคราะห์จากบริษัทเกรท ฮิลล์ แคปิตอลในรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐกล่าวว่า แม้ข้อเสนอบางส่วนอาจเป็นเรื่องยากที่จะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรส แต่หากข้อเสนอนี้ผ่านมติสภา ดัชนีดาวโจนส์อาจดิ่งลงรุนแรงถึง 2,000 จุด ขณะที่นักวิเคราะห์จากบริษัทคิงส์วิว อินเวสต์เมนท์ เมเนจเมนท์ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า หลังจากสื่อตีข่าวว่าปธน.ไบเดนเสนอให้มีการปรับขึ้นภาษีกำไรจากการลงทุน นักลงทุนก็ตื่นตระหนก และเทขายหุ้นออกมาทันที

หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ร่วงลงทั้งหมด นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุร่วงลง 1.75% และดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง 1.41% โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แรน ร่วงลง 3.23% หุ้นอัลโค คอร์ป ร่วงลง 3.06% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.3% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.74% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 1.16%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ดิ่งลง 5.34% หุ้น Nvidia ร่วงลง 3.32% หุ้นแอปเปิล ลดลง 1.17% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.31% หุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวลง 1.13% หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.77%

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นภาษีของปธน.ไบเดนได้บดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเมื่อคืนนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 547,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 603,000 ราย

ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ +1.71 ในเดือนมี.ค. จากระดับ -1.2 ในเดือนก.พ. โดยดัชนี CFNAI เป็นดัชนีถ่วงน้ำหนักตัวชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐจำนวน 85 รายการ ซึ่งดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นบวกจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่สูงกว่าแนวโน้ม และดัชนี CFNAI ที่มีค่าเป็นลบจะบ่งชี้ถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าแนวโน้ม

ทางด้าน Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้น 1.3% หลังจากที่ปรับตัวลง 0.1% ในเดือนก.พ.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมารฺ์กิต และยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.

นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย. หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 มี.ค. โดยระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ