ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดดิ่งลงกว่า 300 จุด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ
ณ เวลา 20.10 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 311 จุด หรือ 0.9% สู่ระดับ 34,357 จุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังจากที่ดัชนี Nasdaq ทรุดตัวลงกว่า 2% วานนี้ โดยนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ และหันไปซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายรายในวันนี้เกี่ยวกับทิศทางเงินเฟ้อในสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนเรียกร้องให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการสร้างงานและช่วยเหลือครัวเรือนในสหรัฐวงเงินรวมกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยรัฐบาลสหรัฐออกร่างกฎหมาย American Jobs Plan วงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และร่างกฎหมาย American Families Plan วงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาครัวเรือนสหรัฐจากผลกระทบของโควิด-19
นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ ซึ่งหากตัวเลข CPI พุ่งขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ก็อาจส่งผลให้เฟดชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยอาจลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน
ก่อนหน้านี้ เฟดเคยส่งสัญญาณลดวงเงิน QE ในปี 2556 ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกต่อนักลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงอย่างหนักในปีดังกล่าว