ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มค้าปลีก หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า จะยังไม่คุมเข้มนโยบายการเงินเร็วๆนี้ ซึ่งได้ช่วยคลายความวิตกในตลาดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 442.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.21 จุด หรือ +1.19%
ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,385.14 จุด เพิ่มขึ้น 96.81 จุด หรือ +1.54%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,416.64 จุด เพิ่มขึ้น 216.96 จุด หรือ +1.43% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,043.61 จุด เพิ่มขึ้น 80.28 จุด หรือ +1.15%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ แต่ลดลง 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้ โดยตลาดถูกกดดันก่อนหน้านี้จากการที่นักลงทุนวิตกว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้นและอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในสหรัฐ
ตลาดฟื้นตัวขึ้นหลังเฟดยืนยันว่าจะยังไม่ลดการอัดฉีดเงินสดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ นี้
หุ้นซาฟราน และหุ้นแอร์บัสของฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 3.82% และ 3.72% ตามลำดับ, หุ้นอาดิดาสและหุ้นมิวนิค รีของเยอรมนี เพิ่มขึ้น 1.19% และ 1.09% ตามลำดับ และหุ้นเบอเบอร์รี, หุ้นบีพี และหุ้นเชลล์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 4.41%, 1.70% และ 2.65% ตามลำดับ