ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดลบ 150.57 จุด นลท.ขายหุ้นวัฏจักร เหตุวิตกโควิดฉุดศก.ทรุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 29, 2021 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มการเงินซึ่งเป็นหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดทำนิวไฮ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,283.27 จุด ลดลง 150.57 จุด หรือ -0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,290.61 จุด เพิ่มขึ้น 9.91 จุด หรือ +0.23% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,500.51 จุด เพิ่มขึ้น 140.12 จุด หรือ + 0.98%

นักลงทุนเทขายหุ้นวัฏจักรซึ่งเป็นหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยหุ้นดังกล่าวนั้นรวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน กลุ่มการเงิน และกลุ่มอุตสาหกรรม หลังมีรายงานว่าประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด

ทั้งนี้ รัฐบาลมาเลเซียประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ทั่วประเทศโดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังไม่มีแนวโน้มลดลง ส่วนที่ออสเตรเลียนั้น ซิดนีย์ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของออสเตรเลีย ได้ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 สัปดาห์ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากหน่วยงานสาธารณสุขของออสเตรเลียยังคงไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 3.33% โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 5.1% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 3.09% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.52% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 2.82%

ดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวลง 0.81% โดยหุ้นมาสเตอร์การ์ด ร่วงลง 3.12% หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ร่วงลง 2.76% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ลดลง 0.14% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวลง 0.78% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 1.25%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลงเช่นกัน นำโดยหุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 3.39% หลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) ประกาศว่าเครื่องบินรุ่น 777X จะยังไม่ได้รับใบอนุญาตให้ขึ้นบินจนกว่าจะถึงปี 2566 ส่วนหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ดิ่งลง 2.01% หุ้นเรย์เธียน เทคโนโลยีส์ (Raytheon Technologies) ร่วงลง 1.83%

อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.11% ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดทำนิวไฮ โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 4.18% หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 1.25% หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับขึ้น 1.4% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ บวก 1.13% หุ้น Nvidia ทะยานขึ้น 5.01% หุ้นไมครอน เทคโนโลยี บวก 1.65%

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทไมครอน เทคโนโลยี และบริษัทวอลกรีนส์ บู้ทส์ อัลลิอันซ์ ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านขายยาของสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 683,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 559,000 ตำแหน่ง

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จาก Conference Board, ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมิ.ย.จาก ADP, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนมิ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนพ.ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ