ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งกว่า 200 จุด จับตาถ้อยแถลง "พาวเวล" สัปดาห์หน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 9, 2021 18:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะดีดตัวขึ้นในคืนนี้ หลังจากดิ่งลงวานนี้

ณ เวลา 18.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 222 จุด หรือ 0.65% สู่ระดับ 34,516 จุด

ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ หลังตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อพิจารณาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลง 1.1% ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 0.7% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 0.5%

หุ้นที่ร่วงลงวานนี้สามารถฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวานนี้ โดยหุ้นกลุ่มธุรกิจเรือสำราญ กลุ่มสายการบิน และธนาคารต่างปรับตัวขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวันนี้ ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรส โดยเขาจะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 14 ก.ค. และต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 15 ก.ค.

ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ประธานเฟดมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์ต่อสภาคองเกรสปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในเดือนก.พ. และอีกครั้งในเดือนก.ค.

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจ, อัตราเงินเฟ้อ, ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ รวมทั้งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

การแถลงของนายพาวเวลในสัปดาห์หน้าถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเขาอาจส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากที่รายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนมิ.ย.ระบุว่า กรรมการเฟดได้เริ่มหารือกันเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการปรับลดวงเงิน QE พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมถึง 1 ปี และเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปีดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ