ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) โดยปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 เดือน และลบล้างการติดลบในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าช้อนซื้อหุ้นเพื่อเก็งกำไร หลังจากที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้จากความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 457.67 จุด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด หรือ +1.34%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,529.42 จุด เพิ่มขึ้น 132.69 จุด หรือ +2.07%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,687.93 จุด เพิ่มขึ้น 267.29 จุด หรือ +1.73% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,121.88 จุด เพิ่มขึ้น 91.22 จุด หรือ +1.30%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น หลังนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงต้นสัปดาห์นี้ อาทิ กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ และกลุ่มเหมืองแร่ ซึ่งพุ่งขึ้น 4% และ 3.4% ตามลำดับ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 เดือน
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือน และบวกขึ้นนำตลาดหุ้นยุโรปอื่นๆ
หุ้นกลุ่มธนาคาร พุ่งขึ้น 2.4% หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักในสัปดาห์นี้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดต่ำลง
หุ้นกลุ่มสายการบิน อาทิ IAG เจ้าของสายการบินบริติช แอร์เวย์, อีซีเจ็ต และไรอันแอร์ ปรับตัวขึ้นราว 0.5% และ 1.9% เนื่องจากอังกฤษมีแผนที่จะยกเลิกการกักตัวผู้เดินทางจากประเทศอื่นๆ ที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
หุ้นแอร์บัส พุ่ง 3.4% หลังรายงานยอดส่งมอบเครื่องบินพุ่งขึ้น 52% ในช่วงครึ่งปีแรก
หุ้นเบอเบอร์รี พุ่ง 3.8% หลังโกลด์แมน แซคส์ แนะนำ "ซื้อ" หุ้นตัวนี้
ทั้งนี้ บรรดานักลงทุนในตลาดจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า