ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ค.) แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นทั้งกระดาน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มปลอดภัย ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับอัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่หุ้นกลุ่มเดินทางปรับตัวลงสวนทางตลาดโดยถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาซึ่งกลายเป็นสายพันธุ์หลัก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดตลาดที่ระดับ 460.83 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด หรือ +0.69%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,559.25 จุด เพิ่มขึ้น 29.83 จุด หรือ +0.46%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,790.51 จุด เพิ่มขึ้น 102.58 จุด หรือ +0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,125.42 จุด เพิ่มขึ้น 3.54 จุด หรือ +0.05%
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์, กลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มเฮลธ์แคร์ ปรับตัวขึ้นมากที่สุด ขณะที่กลุ่มเดินทางและสันทนาการ ปรับตัวลง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสายการบินของอังกฤษท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้เร็วขึ้น
องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยในวันจันทร์ว่า ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักของการแพร่ระบาด ขณะที่หลายประเทศยังไม่ได้รับวัคซีนที่เพียงพอต่อการปกป้องบุคลากรทางการแพทย์
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มวัสดุปรับตัวลงตามราคาน้ำมันและทองแดง โดยได้รับผลกระทบจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ อาทิ ข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีก รวมถึงการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงต่อสภาคองเกรสในวันพุธและพฤหัสบดีนี้เกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและกำหนดเวลาในการปรับลดวงเงินซื้อสินทรัพย์