ดาวโจนส์ผันผวน ล่าสุดเด้งกว่า 200 จุด เก็งเฟดผ่อนคันเร่งขึ้นดบ. หลัง GDP หดตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 28, 2022 22:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวผันผวน โดยแกว่งตัวในช่วงกว้างทั้งแดนบวกและลบ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ในวันนี้

ณ เวลา 22.42 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,401.25 จุด บวก 203.66 จุด หรือ 0.63%

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทแอปเปิล, แอมะซอน และอินเทล หลังจากปิดตลาดวันนี้

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้พุ่งขึ้นกว่า 400 จุด ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามความคาดหมาย ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะลดความแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงหลายเดือนข้างหน้า

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในช่วงแรกวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังสหรัฐเปิดเผยเศรษฐกิจหดตัวเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ดี ล่าสุดดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 200 จุด จากมุมมองเชิงบวกที่ว่า การหดตัวของเศรษฐกิจดังกล่าวจะทำให้เฟดชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 ในวันนี้ โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.9% หลังจากเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า GDP หดตัว 1.6% ในไตรมาส 1

การที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย "ทางเทคนิค" โดยเข้าเกณฑ์นิยามของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างคาดการณ์ตัวเลข GDP ที่แตกต่างกัน โดยเจพีมอร์แกนคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 2 ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดว่าขยายตัว 1% แต่มูดี้ส์ อนาลิติกส์ คาดว่าเศรษฐกิจหดตัว 1%

ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.2% ในไตรมาส 2

อย่างไรก็ดี ในการแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินของเฟดวานนี้ นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยืนยันว่า เขาไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงตลาดแรงงาน

ที่ผ่านมา สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐ (NBER) ถือเป็นหน่วยงานที่จะตัดสินเกี่ยวกับการขยายตัวหรือการถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยจะมีการพิจารณาจากหลายปัจจัย ได้แก่ การจ้างงาน การบริโภค การผลิตในภาคอุตสาหกรรม และรายได้ส่วนบุคคล ก่อนที่จะทำการประกาศอย่างเป็นทางการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ