ดาวโจนส์ทะยานกว่า 400 จุด หลังดอลล์อ่อน,บอนด์ยีลด์ร่วงขานรับมาตรการ BoE

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 28, 2022 23:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุด หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยไม่จำกัดจำนวนเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาด ซึ่งส่งผลให้ปอนด์แข็งค่าขึ้น และดอลลาร์อ่อนค่าลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษและสหรัฐต่างปรับตัวลง

การชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวันนี้ และการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหนุนตลาด หลังนักลงทุนกังวลก่อนหน้านี้ว่า การแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ

ณ เวลา 23.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 29,575.79 จุด บวก 440.80 จุด หรือ 1.51%

ดัชนี Nasdaq พลิกดีดตัวขึ้น 1.52% หลังร่วงลง 0.24% ในช่วงแรก โดยได้รับผลกระทบจากราคาหุ้นแอปเปิลที่ดิ่งลงกว่า 4% หลังสื่อรายงานว่าทางบริษัทได้ยกเลิกแผนการเพิ่มการผลิต iPhone 14 เนื่องจากความต้องการในตลาดต่ำกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้

BoE แถลงในวันนี้ว่า ทางธนาคารจะทำการรับซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอังกฤษจำนวนมากเท่าที่มีความจำเป็นตั้งแต่ขณะนี้จนถึงวันที่ 14 ต.ค.เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน

"BoE จะทำการซื้อพันธบัตรในขนาดที่มีความจำเป็นเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพในตลาด เนื่องจากหากตลาดยังคงมีความผันผวนต่อไปก็จะสร้างความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญต่อเสถียรภาพทางการเงินของสหราชอาณาจักร" แถลงการณ์ระบุ

ทั้งนี้ นักลงทุนแห่เทขายพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลเปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ รวมทั้งมาตรการเยียวยาภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน ทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลต่อสถานะทางการคลังของอังกฤษจากการก่อหนี้เพิ่มขึ้นของรัฐบาล

การแห่เทขายพันธบัตรรัฐบาลดังกล่าว ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีพุ่งขึ้นในวันนี้เหนือระดับ 5% เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2545 ก่อนที่จะอ่อนตัวลง หลัง BoE ออกแถลงการณ์ดังกล่าว

ส่วนปอนด์ดีดตัวขึ้นขานรับแถลงการณ์ของ BoE เช่นกัน

ด้านนายควาซี กวาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษมีความมุ่งมั่นในการรักษาวินัยทางการคลัง และกระทรวงการคลังได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ BoE

นายกวาร์เต็งกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวในการประชุมกับบรรดาผู้บริหารวาณิชธนกิจของอังกฤษในวันนี้เพื่อสร้างความมั่นใจต่อภาคการเงิน หลังจากที่หลายฝ่ายกังวลต่อสถานะทางการคลังของอังกฤษจากการก่อหนี้เพิ่มขึ้นของรัฐบาล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ