สายการบินโคเรียนแอร์ (Korean Air) เปิดเผยในวันนี้ (11 ก.ค.) ว่า รายได้จากธุรกิจขนส่งสินค้า (คาร์โก้) ร่วงลง 4% ในไตรมาส 2/2568 โดยชี้ว่าเป็นผลมาจากความผันผวนของตลาดที่เกิดจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวสวนทางกับปีก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง โดยในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้คาร์โก้ของโคเรียนแอร์พุ่งสูงถึง 14% และเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาสนับตั้งแต่นั้น โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มขึ้น
โคเรียนแอร์ระบุในแถลงการณ์ว่า "ทางสายการบินได้ปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับความผันผวนของตลาดที่เกิดจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยหันมาสร้างความหลากหลายให้แก่สินค้าและบริการ พร้อมกับมุ่งเน้นไปที่การขนส่งสินค้าที่ให้ผลตอบแทนสูง"
แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมว่า สินค้าดังกล่าวประกอบด้วย เซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ โซลาร์เซลล์ และสินค้าเน่าเสียง่ายตามฤดูกาล
โคเรียนแอร์ระบุว่า แม้รายได้รวมในไตรมาสนี้จะทรงตัวจากปีก่อนที่ 4 ล้านล้านวอน (2.9 พันล้านดอลลาร์) แต่กำไรจากการดำเนินงานกลับลดลง 3.5% เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น เช่น ค่าบุคลากรและค่าเสื่อมราคา
อนึ่ง โคเรียนแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในสายการบินและผู้ให้บริการคาร์โก้ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย หลังจากเข้าซื้อกิจการของคู่แข่งอย่าง เอเชียน่า แอร์ไลน์ส (Asiana Airlines) ด้วยมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว